ประวัติของเนสท์เล่
“เนสท์เล่” บริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ครอบคลุม 190 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย เนสท์เล่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเวเวย์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และดำเนินธุรกิจอย่างยาวนานมากว่า 150 ปี เนสท์เล่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้คนและสัตว์เลี้ยงครอบคลุมในทุกช่วงวัย มากกว่า 2,000 แบรนด์ ทั้งที่เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก เช่น เนสกาแฟ เนสเปรสโซ แม็กกี้ ตลอดจนแบรนด์ที่เป็นที่ชื่นชอบในท้องถิ่นอย่าง ตราหมี หรือมิเนเร่
ปัจจุบัน บริษัทเนสท์เล่ ประเทศไทย มีโรงงานทั้งหมด 7 แห่ง พร้อมพนักงานรวมทั้งสิ้นกว่า 3,300 คน ซึ่งทำหน้าที่ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ ทั่วประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียง เช่น เนสกาแฟ เนสท์เล่ตราหมี ไมโล เนสท์เล่เพียวไลฟ์ เนสวิต้า แม็กกี้ และเนสท์เล่ไอศกรีม ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงของเนสท์เล่ เป็นที่รู้จักกันดีและได้รับการยอมรับ จากผู้บริโภคอย่างแพร่หลาย
โฆษณาชิ้นแรกของเนสท์เล่ ผลิตภัณฑ์นมข้นหวานตรา “แหม่มทูนหัว” ปรากฏในหนังสือพิมพ์บางกอกไทม์สของประเทศไทย

ผลิตภัณฑ์ตราหมีของเนสท์เล่ เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย

ก่อตั้งบริษัทโปรเนสยามในประเทศไทย เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ทั้งหมดที่นำเข้ามาในเมืองไทย
เปิดตัว แม็กกี้ ครั้งแรกในประเทศไทย

เปิดตัว เนสท์เล่ไมโล ครั้งแรกในประเทศไทย

ร่วมก่อตั้งบริษัทยูไนเต็ดมิลค์ จำกัด ก่อตั้งโรงงานสำโรง เพื่อตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์ของเนสท์เล่ในไทยที่มีมากขึ้น ประกอบกับภาวะการลงทุนที่เอื้ออำนวย โรงงานนี้ผลิตนมข้นหวาน 3 แบรนด์ที่ต่างมีตลาดของตัวเอง ได้แก่ คาร์เนชัน แหม่มทูนหัว และ ตราหมี
เนสท์เล่เข้าครอบครองกิจการ Ursina Franck ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ตราหมี
แต่งตั้งบริษัทดีทแฮล์ม จำกัด ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ทั้งหมด
ซื้อกิจการบริษัทยูไนเต็ดมิลค์ จำกัด ร่วมทุนกับบริษัทกาแฟผงไทย จำกัด เพื่อผลิตกาแฟสำเร็จรูปตราเนสกาแฟ เนสท์เล่ ดีโค และ กาแฟปรุงสำเร็จ ทรีโอ เนสกาแฟจึงได้เปิดตัวขึ้นในประเทศไทย

โรงงานสำโรงเริ่มผลิตนมสเตอริไลซ์คืนรูปเพิ่มจากที่ผลิตนมข้นหวาน นับแต่นั้นมา สายการผลิตก็ขยายออกไปครอบคลุมนม UHT ซีเรียล และผลิตภัณฑ์ประกอบอาหาร เช่น ซอสพริกแม็กกี้ ซอสมะเขือเทศแม็กกี้ ซอสปรุงรสแม็กกี้ และ ซุปก้อน
ซื้อกิจการบริษัทอูปาลี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นกิจการช็อกโกแลตและขนมหวานในไทย และเปลี่ยนชื่อเป็น โกโก้ สเปเชียลตี้ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ส่งผลให้เนสท์เล่กลายเป็นเจ้าของโรงงานปทุมธานีเต็มตัว เนสท์เล่ คิทแคท เปิดตัวในประเทศไทยการเข้าซื้อกิจการของคาร์เนชันทั่วโลก ส่งผลให้เนสท์เล่เข้าครอบครองกิจการและบริหารงานโรงงานบางปู

ก่อตั้ง โรงงานนวนคร ซึ่งเป็นโรงงานนมผงแห่งแรกในประเทศไทย บริษัทโกโก้ สเปเชียลตี้ส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัทนิวทริชันนัล โปรดักส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเตรียมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ในปีนั้น ซึ่งต่อมาก็คือ เครื่องดื่มผงชมดื่มตรา ไมโล

บริษัทคาร์เนชัน (ประเทศไทย) ได้เปลี่ยนชื่อเป็น เนสท์เล่ เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงานทุกแห่งในไทยของเนสท์เล่ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ซื้อจากบริษัทรับจ้างแพ็คสินค้า
บริษัทโปรเนสยาม ได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทเนสท์เล่ โปรดักส์ (ไทยแลนด์) อิงค์ (NEPRO) เพื่อดึงเอาการบริหารการตลาด การขาย และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ กลับมาจากดีทแฮล์ม ส่งผลให้เนสท์เล่มีอำนาจเต็มในการบริหาร ณ วันที่ 1 เมษายน 2532 สามารถผนวกบริการเชิงพาณิชย์และบริการสนับสนุนต่าง ๆ เข้ามาไว้ในองค์กรแห่งเดียวกันได้
สร้างโรงงานปทุมธานีผลิตช็อกโกแล็ตและลูกอม เปิด โรงงานฉะเชิงเทรา ภายใต้บริษัทควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักส์ จำกัด เพื่อผลิตกาแฟสำเร็จรูป

โรงงานบางปูได้รับการอนุมัติ ในโครงการร่วมลงทุนทางอุตสาหกรรมอาเซียน (AIJV) ก่อตั้งศูนย์รับซื้อกาแฟของเนสท์เล่ในจังหวัดชุมพร

ร่วมทุนกับวิทเทล ตั้งบริษัท รอแยล รีซอสเซส จำกัด เพื่อผลิตน้ำแร่มิเนเร่ ที่โรงงานอยุธยา เปิดโรงงานน้ำดื่มอยุธยา

- เปิดตัว มิเนเร่ (MINÉRÉ) ในประเทศไทย
- ก่อตั้งบริษัทเนสท์เล่ (ไทย) จำกัด และฉลองครบรอบ 100 ปีในประเทศไทย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พระยศในขณะนั้น) เสด็จพระราชดำเนินมาร่วมพิธี

เนสท์เล่เข้าถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเจนเนอรัล แปซิฟิก ฟู้ดส์ จำกัด (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น เนสท์เล่ ไอศกรีม) มีอำนาจในการบริหารโรงงานบางชัน และเพิ่มธุรกิจไอศกรีมและโยเกิร์ตเข้ามาในพอร์ต

- เนสท์เล่เข้าถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเดนนิช แดรี่ อินดัสตรีส์ จำกัด ทำให้มีโรงงานปากช่องเพิ่มเข้ามา เป็นการรวมพอร์ตธุรกิจนมพาสเจอร์ไรซ์และโยเกิร์ต
- บริษัทนิวทริชันนัล โปรดักส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปลี่ยนชื่อเป็น เนสท์เล่ ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด
- คาร์เนชัน แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เปลี่ยนชื่อเป็น เนสท์เล่ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
เนสท์เล่เข้าถือครองสิทธิ์ 100% ในบริษัทรอแยล รีซอสเซส จำกัด และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัทเปอริเอ้ วิทเทล (ประเทศไทย) จำกัด
จัดตั้งภูมิภาคย่อยคือ เนสท์เล่อินโดไชน่า ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม โดยมี เนสท์เล่ ประเทศไทย เป็นศูนย์กลาง
จัดตั้งสำนักงานปฏิบัติการระดับภูมิภาค ด้านการจัดซื้อ และโลจิสติกส์ เปิดตัว เนสท์เล่เพียวไลฟ์ ในประเทศไทย

เปิดตัว เนสท์เล่ เพียวริน่า ในประเทศไทย

การขยายไลน์การผลิตที่โรงงานบางปู เพื่อผลิตคอฟฟี่เมตส่งออก ทำให้โรงงานบางปูของเนสท์เล่กลายเป็นโรงงานผลิตครีมเทียมที่ใหญ่ที่สุดของเนสท์เล่ทั่วโลก
เนสท์เล่โอนธุรกิจนมและเครื่องดื่มกระป๋อง และนม UHT (โรงงานนวนคร) และธุรกิจผลิตภัณฑ์แช่แข็ง (โรงงานปากช่อง) ไปให้บริษัทเอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผลิตและจัดจำหน่าย
ก่อตั้งโรงงานผลิตเนสกาแฟ ทรีอินวัน
ก่อตั้งโรงงาน เนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์ เพื่อผลิตอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงภายใต้ แบรนด์ เนสท์เล่ เพียวริน่า
เปิด โรงงานอมตะ ที่ถือได้ว่าเป็นโรงงานผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีสาธารณูปโภคระดับเวิล์ดคลาส

เนสท์เล่ ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 120 ปี

เปิดตัว เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้ ในประเทศไทย

จัดตั้ง Nestlé Skin Health เปิดสำนักงาน เนสท์เล่ เมียนมา

เนสเพรสโซ เปิดตัวบูติกแห่งแรกในประเทศไทย

เปิดสำนักงานตัวแทนของบริษัทเนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ที่กัมพูชา
เปิดโรงงานสุราษฏร์ธานี สำหรับเนสท์เล่เพียวไลฟ์ เปิดโรงงานดากองในเมียนมา

ครั้งแรกของวันเนสกาแฟอินโดไชน่า (Indochina NESCAFÉ Day) Nestlé Professional Inspiration Studio เปิดดำเนินการ

เปิดโรงงานนวนคร สำหรับการผลิตสินค้า UHT
