ตั้งแต่อดีตโบราณ ชนพื้นเมืองในพื้นที่ต่างๆ ของโลก ต่างเชื่อกันว่าความร้อนมีพลัง และสามารถช่วยเรื่องการรักษาได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ คนไทยสมัยโบราณเมื่อคลอดลูก ผู้หญิงส่วนใหญ่จะได้รับการดูแลด้วยวิธีเข้ากระโจมอบความร้อนเพื่อให้มดลูกเข้าอู่ สุขภาพกลับมาแข็งแรงได้รวดเร็ว ทุกวันนี้ ความร้อนก็ยังถูกนำมาใช้ในการบรรเทาหรือรักษาโรคและอาการหลายอย่าง เช่น
โรคหวัด
เมื่อใดที่รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นหวัด ก็ได้เวลาที่ควรจะหันเข้าหาของร้อนเสียที จากงานวิจัยของสถาบัน Common Cold Centre ที่เวลส์ พบว่าการดื่มน้ำร้อนๆ จะช่วยลดน้ำมูกหรือการเกิดเสมหะ ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น ต้มยำ หรือแกงเผ็ดต่างๆ ก็มีส่วนช่วยให้หายไข้ได้เช่นกัน รวมถึงสมุนไพรบางชนิดก็มีคุณสมบัติเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายและดีต่อสุขภาพ โดยความร้อนนั้นจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี นอกจากนี้ ยังกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย สมุนไพรที่ดีมีประโยชน์เหมาะจะนำมาปรุงอาหารเวลาเป็นหวัด ได้แก่ พริก ขิง ข่า ตะไคร้ หอมแดง กระเพรา ถ้าหากรู้สึกว่าเริ่มมีอาการเริ่มต้นของไข้หวัด แนะนำให้นำสมุนไพรเหล่านี้มาปรุงเป็นอาหาร
ปวดหลัง
เมื่อย่างเข้าสู่วัยกลางคน บางคนอาจเกิดมีอาการกล้ามเนื้อบริเวณหลังจะเริ่มตึงและเจ็บ ความร้อนมีคุณสมบัติสำคัญคือช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้บรรเทาความตึงลง นอกจากนี้ ยังช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด ไม่ให้อุดตัน ณ จุดใดจุดหนึ่ง เมื่อระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี กล้ามเนื้อหลังก็จะทำงานได้ดีขึ้น ถ้าวันไหนรู้สึกว่าหลังตึงๆ แนะนำให้ใช้ถุงน้ำร้อนประคบ จะช่วยลดความตึงลงได้ หรือลองอาบหรือนอนแช่สบายๆ ในน้ำอุ่น เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย
ปวดตามข้อ
อาการปวดข้อเกิดขึ้นเพราะกล้ามเนื้อตึงจนเกินไป โดยเฉพาะช่วงระหว่างที่เรานอนหลับและไม่รู้สึกตัว อาจเผลอนอนทับหรืองอส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายนานเกินไป ทำให้เกิดอาการตึงได้ในตอนเช้า วิธีง่ายๆ คือ ใช้ถุงน้ำร้อนประคบตามบริเวณที่ตึง อาบน้ำหรือนอนแช่น้ำอุ่นให้อ่างอาบน้ำเพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายความตึงเครียดลง และควรระวังอย่าให้น้ำร้อนจนเกินไป
ปวดประจำเดือน
ถ้าหากมีอาการปวดประจำเดือน คำแนะนำคือให้ใช้ถุงน้ำร้อนวางบริเวณหน้าท้องจะช่วยบรรเทาอาการได้หรือใช้ขิงสดๆ ห่อผ้าขาวบาง แล้วเอาไปต้มในน้ำร้อนๆ ทิ้งไว้ให้เย็นพออุ่น แล้วจึงวางลงบนหน้าท้อง บริเวณที่เกิดอาการปวด จากนั้นกดเบาๆ ความร้อนจะช่วยให้อาการปวดผ่อนคลาย และกล้ามเนื้อที่ตึงแน่นก็จะคลายลงด้วยเช่นกัน ถ้าหากปวดมาก ลองต้มน้ำขิงร้อนๆ แล้วผสมกับชาดำ คนให้เข้ากัน เพิ่มน้ำผึ้งหรือนมลงไปตามแต่ความชอบแล้วดื่ม จะช่วยให้ร่างกายอุ่นขึ้น ช่วยให้อาการปวดลดลง
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
เข้าซาวน่า การเข้าซาวน่าอบไอน้ำ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย อากาศอุ่นๆ จะช่วยให้หายใจได้สะดวก จมูกโล่ง นอกจากนี้ ความร้อนจากการอบซาวน่ายังช่วยเปิดรูขุมขน กระตุ้นการไหลเวียนเลือดในร่างกาย
ถุงน้ำร้อน ถือเป็นของที่ควรซื้อติดบ้านเอาไว้ เพราะสามารถใช้ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะประคบหัวเข่า หน้าท้อง หรือแผ่นหลัง ก็ได้ทั้งหมด เมื่อใดที่รู้สึกปวดกล้ามเนื้อ เจ็บ หรือกล้ามเนื้อตึง แนะนำให้ประคบถุงน้ำร้อนนี่แหละ จะช่วยให้ความตึงผ่อนคลาย เลือดไหลเวียนดี บรรเทาอาการปวด
ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว จะเป็นน้ำเปล่าหรือน้ำแร่ก็ได้ เพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป โดยเฉพาะเวลาเสียเหงื่อมากๆ เช่น เวลาออกกำลังกาย อยู่ในอากาศร้อน หลังเข้าซาวน่าหรือเวลารับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพรร้อนๆ ก็อย่าลืมเติมน้ำให้ร่างกายนะคะ
โรคหวัด
เมื่อใดที่รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นหวัด ก็ได้เวลาที่ควรจะหันเข้าหาของร้อนเสียที จากงานวิจัยของสถาบัน Common Cold Centre ที่เวลส์ พบว่าการดื่มน้ำร้อนๆ จะช่วยลดน้ำมูกหรือการเกิดเสมหะ ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น ต้มยำ หรือแกงเผ็ดต่างๆ ก็มีส่วนช่วยให้หายไข้ได้เช่นกัน รวมถึงสมุนไพรบางชนิดก็มีคุณสมบัติเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายและดีต่อสุขภาพ โดยความร้อนนั้นจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี นอกจากนี้ ยังกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย สมุนไพรที่ดีมีประโยชน์เหมาะจะนำมาปรุงอาหารเวลาเป็นหวัด ได้แก่ พริก ขิง ข่า ตะไคร้ หอมแดง กระเพรา ถ้าหากรู้สึกว่าเริ่มมีอาการเริ่มต้นของไข้หวัด แนะนำให้นำสมุนไพรเหล่านี้มาปรุงเป็นอาหาร
ปวดหลัง
เมื่อย่างเข้าสู่วัยกลางคน บางคนอาจเกิดมีอาการกล้ามเนื้อบริเวณหลังจะเริ่มตึงและเจ็บ ความร้อนมีคุณสมบัติสำคัญคือช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้บรรเทาความตึงลง นอกจากนี้ ยังช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด ไม่ให้อุดตัน ณ จุดใดจุดหนึ่ง เมื่อระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี กล้ามเนื้อหลังก็จะทำงานได้ดีขึ้น ถ้าวันไหนรู้สึกว่าหลังตึงๆ แนะนำให้ใช้ถุงน้ำร้อนประคบ จะช่วยลดความตึงลงได้ หรือลองอาบหรือนอนแช่สบายๆ ในน้ำอุ่น เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย
ปวดตามข้อ
อาการปวดข้อเกิดขึ้นเพราะกล้ามเนื้อตึงจนเกินไป โดยเฉพาะช่วงระหว่างที่เรานอนหลับและไม่รู้สึกตัว อาจเผลอนอนทับหรืองอส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายนานเกินไป ทำให้เกิดอาการตึงได้ในตอนเช้า วิธีง่ายๆ คือ ใช้ถุงน้ำร้อนประคบตามบริเวณที่ตึง อาบน้ำหรือนอนแช่น้ำอุ่นให้อ่างอาบน้ำเพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายความตึงเครียดลง และควรระวังอย่าให้น้ำร้อนจนเกินไป
ปวดประจำเดือน
ถ้าหากมีอาการปวดประจำเดือน คำแนะนำคือให้ใช้ถุงน้ำร้อนวางบริเวณหน้าท้องจะช่วยบรรเทาอาการได้หรือใช้ขิงสดๆ ห่อผ้าขาวบาง แล้วเอาไปต้มในน้ำร้อนๆ ทิ้งไว้ให้เย็นพออุ่น แล้วจึงวางลงบนหน้าท้อง บริเวณที่เกิดอาการปวด จากนั้นกดเบาๆ ความร้อนจะช่วยให้อาการปวดผ่อนคลาย และกล้ามเนื้อที่ตึงแน่นก็จะคลายลงด้วยเช่นกัน ถ้าหากปวดมาก ลองต้มน้ำขิงร้อนๆ แล้วผสมกับชาดำ คนให้เข้ากัน เพิ่มน้ำผึ้งหรือนมลงไปตามแต่ความชอบแล้วดื่ม จะช่วยให้ร่างกายอุ่นขึ้น ช่วยให้อาการปวดลดลง
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
เข้าซาวน่า การเข้าซาวน่าอบไอน้ำ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย อากาศอุ่นๆ จะช่วยให้หายใจได้สะดวก จมูกโล่ง นอกจากนี้ ความร้อนจากการอบซาวน่ายังช่วยเปิดรูขุมขน กระตุ้นการไหลเวียนเลือดในร่างกาย
ถุงน้ำร้อน ถือเป็นของที่ควรซื้อติดบ้านเอาไว้ เพราะสามารถใช้ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะประคบหัวเข่า หน้าท้อง หรือแผ่นหลัง ก็ได้ทั้งหมด เมื่อใดที่รู้สึกปวดกล้ามเนื้อ เจ็บ หรือกล้ามเนื้อตึง แนะนำให้ประคบถุงน้ำร้อนนี่แหละ จะช่วยให้ความตึงผ่อนคลาย เลือดไหลเวียนดี บรรเทาอาการปวด
ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว จะเป็นน้ำเปล่าหรือน้ำแร่ก็ได้ เพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป โดยเฉพาะเวลาเสียเหงื่อมากๆ เช่น เวลาออกกำลังกาย อยู่ในอากาศร้อน หลังเข้าซาวน่าหรือเวลารับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพรร้อนๆ ก็อย่าลืมเติมน้ำให้ร่างกายนะคะ