ออกกำลังกายประเภทไหนช่วยเพิ่มความสูงให้ลูกได้
เด็กจะต้องมีการออกกำลังทุกวันเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดีต่อร่างกาย และพัฒนาการของเด็กๆ เอง ซึ่งจะทำให้เขาเติบโตสมวัย ในอนาคต การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้เด็กรับมือกับความเครียด แล้วยังช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของร่างกายในมีพัฒนาการที่สมวัย กระดูกแข็งแรงรวมถึงกล้ามเนื้อและข้อต่ออื่นๆ ด้วย ช่วยปรับบุคลิกท่าทาง การทรงตัวในเกิดความสมดุลมากขึ้น ปอดและหัวใจทำงานได้ดี ช่วยให้เขารู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับเพื่อน ๆ เกิดการเรียนรู้และทักษะใหม่ๆในขณะที่มีความสนุกสนาน ช่วยให้มีน้ำหนักและส่วนสูงที่ดูสมส่วน
แต่บางครั้งผู้ปกครองก็กังวลเรื่องการเจริญเติบโตของลูก มากเกินไป ความจริงแล้ว ผู้หญิงจะสามารถเจริญเติบโตได้จนถึงอายุประมาณ 21 ปี จึงจะหยุดการเจริญเติบโต และผู้ชายจะสามารถเจริญเติบโตไปจนกว่าจะอายุประมาณ 25 ปี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับโภชนาการและการออกกำลังกาย รวมไปถึงการนอนหลับพักผ่อน ก็ช่วยให้สามารถเจริญเติบโตต่อเนื่องไปอีก 2-4 นิ้ว จนถึงอายุประมาณ 30 ปี แต่ช่วงที่สำคัญคือ ช่วงวัยรุ่นตั้งแต่อายุ 9-18 ปี ถือว่าเป็นช่วง โกรธสเปิร์ท หรือช่วงที่สูงเร็วที่สุด ก่อนที่ร่างกายจะเข้าสู่วัยหนุ่มสาว ดังนั้นแล้วในช่วงนี้ เด็กผู้ชายควรจะได้รับสารอาหาร 1,700-2,300 กิโลแคลอรี ส่วนเด็กผู้หญิงควรจะได้รับประมาณ 1,600-1,850 กิโลแคลอรี สารอาหารที่ควรจะได้รับในวัยนี้มากเป็นพิเศษ คือ โปรตีน ซึ่งควรจะได้รับประมาณ 1.2 กรัม ต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และต้องได้รับแคลเซียมประมาณวันละ 1,000 มิลลิกรัม ดังนั้นเริ่มต้นง่ายๆให้ลูกคุณวันนี้ด้วยการเลือกนมผงที่มีสารอาหารครบถ้วน มีแคลเซียมสูง ฟอสฟอรัสสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟัน ที่แข็งแรง และมีวิตามินดี ใยอาหารจากธรรมชาติและผักโขมกับแอปเปิ้ล 2.5 % มีวิตามินซี อีสูง และวิตามินบี 12 ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง พร้อมๆ กับการออกกำลังกายที่จะช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตของร่างกาย ที่สำคัญควรเป็นกิจกรรมที่มีแรงกระแทกจากการกระโดด ซึ่งเป็นเหมือนการกระตุ้นข้อต่อกระดูกให้มีการขยายตัวขึ้น เพิ่มความยาวของกระดูกสันหลัง และเวลาเดียวกันยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องได้อีกด้วย มาเริ่มกันด้วยกิจกรรมแรก
เด็กจะต้องมีการออกกำลังทุกวันเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดีต่อร่างกาย และพัฒนาการของเด็กๆ เอง ซึ่งจะทำให้เขาเติบโตสมวัย ในอนาคต การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้เด็กรับมือกับความเครียด แล้วยังช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของร่างกายในมีพัฒนาการที่สมวัย กระดูกแข็งแรงรวมถึงกล้ามเนื้อและข้อต่ออื่นๆ ด้วย ช่วยปรับบุคลิกท่าทาง การทรงตัวในเกิดความสมดุลมากขึ้น ปอดและหัวใจทำงานได้ดี ช่วยให้เขารู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับเพื่อน ๆ เกิดการเรียนรู้และทักษะใหม่ๆในขณะที่มีความสนุกสนาน ช่วยให้มีน้ำหนักและส่วนสูงที่ดูสมส่วน
แต่บางครั้งผู้ปกครองก็กังวลเรื่องการเจริญเติบโตของลูก มากเกินไป ความจริงแล้ว ผู้หญิงจะสามารถเจริญเติบโตได้จนถึงอายุประมาณ 21 ปี จึงจะหยุดการเจริญเติบโต และผู้ชายจะสามารถเจริญเติบโตไปจนกว่าจะอายุประมาณ 25 ปี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับโภชนาการและการออกกำลังกาย รวมไปถึงการนอนหลับพักผ่อน ก็ช่วยให้สามารถเจริญเติบโตต่อเนื่องไปอีก 2-4 นิ้ว จนถึงอายุประมาณ 30 ปี แต่ช่วงที่สำคัญคือ ช่วงวัยรุ่นตั้งแต่อายุ 9-18 ปี ถือว่าเป็นช่วง โกรธสเปิร์ท หรือช่วงที่สูงเร็วที่สุด ก่อนที่ร่างกายจะเข้าสู่วัยหนุ่มสาว ดังนั้นแล้วในช่วงนี้ เด็กผู้ชายควรจะได้รับสารอาหาร 1,700-2,300 กิโลแคลอรี ส่วนเด็กผู้หญิงควรจะได้รับประมาณ 1,600-1,850 กิโลแคลอรี สารอาหารที่ควรจะได้รับในวัยนี้มากเป็นพิเศษ คือ โปรตีน ซึ่งควรจะได้รับประมาณ 1.2 กรัม ต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และต้องได้รับแคลเซียมประมาณวันละ 1,000 มิลลิกรัม ดังนั้นเริ่มต้นง่ายๆให้ลูกคุณวันนี้ด้วยการเลือกนมผงที่มีสารอาหารครบถ้วน มีแคลเซียมสูง ฟอสฟอรัสสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟัน ที่แข็งแรง และมีวิตามินดี ใยอาหารจากธรรมชาติและผักโขมกับแอปเปิ้ล 2.5 % มีวิตามินซี อีสูง และวิตามินบี 12 ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง พร้อมๆ กับการออกกำลังกายที่จะช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตของร่างกาย ที่สำคัญควรเป็นกิจกรรมที่มีแรงกระแทกจากการกระโดด ซึ่งเป็นเหมือนการกระตุ้นข้อต่อกระดูกให้มีการขยายตัวขึ้น เพิ่มความยาวของกระดูกสันหลัง และเวลาเดียวกันยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องได้อีกด้วย มาเริ่มกันด้วยกิจกรรมแรก
- การวิ่ง การออกกำลังกายประเภทนี้ มีความได้เปรียบกว่าการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มการปล่อยของฮอร์โมนการเจริญเติบโต แต่หากวิ่งมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการปวดบวม หรืหกล้มได้ในเด็กเล็ก ดังนั้นอาจเลือกเป็นวิ่งบนพื้นดิน หรือสนามหญ้าเป็นต้น
- การเตะ เพียงแค่ยืนแยกขาออกแล้วเตะขาข้างหนึ่งไปด้านหน้า ทำแบบนี้อย่างน้อยข้างละ 20 ครั้ง ก็ช่วยยืด กระดูกช่วงหน้าแข้งได้เช่นเดียวกัน
- การกระโดด ยืนตรงแยกขาออกเล็กน้อย จากนั้นกระโดดด้วยเท้าเพียงข้างเดียว ให้สุด ทำซ้ำแบบเดียวกันประมาณ 10 ครั้ง สลับทั้งสองข้าง
- ขี่จักรยาน ขี่จักรยานเป็นกิจกรรมที่ทำให้ เท้าของเรายืดเหยียดตลอดระยะเวลาที่ปั่นจักรยาน
- ว่ายน้ำ ว่ายน้ำ เขาบอกว่า ว่ายน้ำท่าผีเสื้อเป็นเวลา 20 นาที เป็นท่าที่เวิร์คที่สุดเพราะร่างกายได้ออกกำลังช่วงหลัง ไหล่ และช่วงแขนอย่างเต็มที่ แต่ถ้าไม่สะดวกท่าอื่นๆ ก็เวิร์คเช่นเดียวกัน
- กระโดดเชือก ท่านี้ เป็นการกระโดดทั้งตัว ช่วงขา และช่วงหลังได้ยืดเหยียดไปพร้อมๆ กัน
- โหนบาร์ เป็นการยืดกล้ามเนื้อหลังอย่างเต็มที่ รวมช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมือ และแขนได้เป็นอย่างดี