Sorry, you need to enable JavaScript to visit this website.
Sort by
Sort by

ดูแลสุขภาพดี ฉบับมนุษย์ติดจอเสพติดโซเชียล

Health tips for the screen addicted

ปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือแม้แต่ผู้สูงวัย ก็ต่างใช้สมาร์ตโฟนเสมือนเป็นอวัยวะที่ 33 ไปแล้ว ตั้งแต่ตื่นยันเข้านอน ทั้งการเสพข่าวสารออนไลน์ ติดต่อเพื่อนฝูงทางโซเชียลมีเดีย ต้องคอยส่องความเคลื่อนไหวคนรอบข้าง และรับความบันเทิงผ่านการดูหนังดูละคร พฤติกรรมติดจอเหล่านี้ก็มีประโยชน์และอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตแต่ละวันมากก็จริง แต่ถ้าใช้มากเกินไปแบบนอนสตอปก็มีโทษต่อสุขภาพร่างกายได้เหมือนกัน เราจึงมี 3 เทคนิค แม้ติดจอก็สุขภาพดีได้ ด้วย 3อ. อาหาร อารมณ์ และออกกำลังกายง่าย ๆ

ดูแลสุขภาพดี แบบฉบับมนุษย์ติดจอสไตล์ 3อ.

ดูแลสุขภาพดี แบบฉบับมนุษย์ติดจอสไตล์ 3อ.

1. อ.อาหาร ดูซีรีย์เกาหลี ทำเมนูสุขภาพดีตามรอยโอปป้า

หากใครที่ติดนิสัย ‘ขออีกตอน ค่อยนอนก็ได้’ ต้องรีบลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เฮลตี้ได้แล้ว เพราะเมื่อพูดถึงซีรีส์แล้วก็พ่วงมาด้วยจำนวนตอนและซีซันมากมาย ซึ่งก็มีให้เลือกดูทางออนไลน์ทั้งไทยและต่างประเทศได้ตลอด จนคุณอาจเผลอใช้เวลาดูทั้งวัน อาจหลงลืมกินข้าวกินปลาหรือกินไม่เป็นเวลา ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายที่อิดโรย เสื่อมโทรมลง ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่ ควรกำหนดเวลาแบ่งดูทีละตอนจะดีกว่า แล้วลองมาฝึกทำอาหารกินเองเริ่มจากดูเมนูอาหารที่สอดแทรกในแต่ละตอน นำมาประยุกต์ทำกินเอง เช่น อินกับโอปป้าลองทำข้าวยำเกาหลี อินกับรุ่นพี่ลองทำสลัดเต้าหู้ หรือถ้าอินกับหนุ่มแวมไพร์ตะวันตกก็ลองทำซุปเห็ด เป็นต้น

การเลือกเมนูจากซีรีส์ที่เราดูมาทำกินเอง ช่วยให้รู้จักและได้ลองกินอาหารจากวัตถุดิบหลากหลาย และได้เรียนรู้วัฒนธรรมการกินจากซีรีส์ทั่วโลกได้ รวมไปถึงการดูแลสายตาที่อ่อนล้าจากการจ้องหน้าจอติดต่อกันด้วย 5 อาหารบำรุงสายตา เช่น
• ลูทีน ในผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง ผักโขม คะน้า ปวยเล้ง ฯลฯ ที่ช่วยเรื่องลดความเสื่อมของจอประสาทตา ช่วยกรองแสงสีฟ้าได้
• เบตาแคโรทีน ในผักหลากสี เช่น ฟักทอง แครอต มะละกอ พริกหวาน ฯลฯ ช่วยเรื่องการมองเห็นในเวลากลางคืน ลดความเสื่อมของลูกตา
• แอนโทไซยานิน ในผลไม้สีม่วงและตระกูลเบอร์รี เช่น โกจิเบอร์รีหรือเก๋ากี้ บลูเบอร์รี ลูกพรุน เผือก ช่วยชะลอการเสื่อมของดวงตา ช่วยปรับการมองเห็นในที่มืด และอุดมสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันเซลล์ในดวงตาถูกทำลาย
• โอเมกา 3 ในปลาทะเลและธัญพืช เช่น อัลมอนด์ ถั่วลิสง ปลาแซลมอน ปลาทูนา ฯลฯ ช่วยชะลอภาวะจอประสาทตาเสื่อมได้

รวมถึงควรระวังการดูซีรีส์มาราธอนที่ทำให้นอนดึก ส่งผลให้ร่างกายหิวบ่อยกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้กินไม่เป็นเวลา เผลอกินมื้อดึก หรือติดกินขนมพลังงานสูง อ้วนไม่รู้ตัว

2. อ.ออกกำลังกาย ชิตแชตสนุก พร้อมรูปร่างดีไม่หยุด

มนุษย์ติดแชตทั้งวัน ก้ม ๆ เงย ๆ แถมนั่งไม่ถูกท่า แบบนี้อาการโรคออฟฟิศซินโดรมอาจถามหาได้ เช่น ปวดข้อมือ นิ้วล็อก ปวดกล้ามบริเวณ คอ บ่า ไหล่จากการเกร็งกล้ามเนื้อ และปัญหากระดูกสันหลังและกระดูกเชิงกราน เป็นต้น และการไม่ได้เคลื่อนไหว เนือยนิ่ง ส่งผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานทำงานได้น้อยกว่าพลังงานที่กินเข้าไป เกิดไขมันสะสมได้ แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้ารู้จักการบริหารระหว่างเล่นมือถือ เช่น

อ.ออกกำลังกาย ชิตแชตสนุก พร้อมรูปร่างดีไม่หยุด

• นอนเล่นมือถือ ยกขา 90 องศา สลับซ้าย – ขวา ทำซ้ำให้ครบ 10 ครั้ง/เซต ทำให้ได้ 3 เซตขึ้นไป ช่วยกระชับต้นขาและเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ
• ยืนแชตลดแฟตช่วงขา ฟิตร่างกายได้ด้วยการยืนแชต กางขาออกกว้างเท่าช่วงไหล่ ย่อตัวลงช้าๆ ทำติดต่อกัน 20 ครั้ง/เซต ทำให้ได้ 4 เซต ช่วยเบิร์นไขมันให้ต้นขากระชับ และกล้ามเนื้อน่องแข็งแรง และเป็นการบริหารข้อต่อหัวเข่าและข้อเท้าไปในตัว
• ระหว่างนั่งดูซีรีส์ บิดเอวบนเก้าอี้ 10 ครั้ง/เซต ทำให้ได้ 4 เซตขึ้นไปต่อวัน ช่วยเอวฟิต หุ่นปังเหมือนนางเอกเกาหลีแน่นอน
• ซีรีส์จบก็ลุกขึ้นมากระโดดตบ กำหนดให้ตัวเองลุกขึ้นมากระโดดตบ 20 ครั้ง/เซต ช่วยให้ได้ขยับอวัยวะ เคลื่อนไหวร่างกายเผาผลาญพลังงานพร้อมกระตุ้นการทำงานของหัวใจ และถือเป็นการเตือนตัวเองให้พักจากหน้าจอเป็นระยะ ๆ ด้วย

ในกิจวัตรประจำวันก็สามารถแทรกกิจกรรมเบิร์นแคล ฯ ทดแทนช่วงเวลาที่ไม่ค่อยได้ขยับตัวง่าย ๆ เพียงการหาโอกาสให้ตัวเองเคลื่อนไหวร่างกายตลอดวันง่าย ๆ เช่น การเดิน การขึ้นบันได หรือการทำงานบ้านต่างเอง กระตุ้นให้ร่างกายใช้พลังงานให้มากขึ้น

อ.อารมณ์ ไม่แปรปรวน พักสายตาในสวน

3. อ.อารมณ์ ไม่แปรปรวน พักสายตาในสวน

ลองมาเช็กกันสักหน่อยว่าคุณติดหน้าจอหรือโซเชียลมากินไปไหม? เพียงสังเกตอาการตัวเองดังนี้
1. รู้สึกกังวลเมื่อต้องห่างจากโทรศัพท์
2. ต้องคอยติดตามทุกดราม่าในโลกโซเชียล
3. สไลด์โทรศัพท์แม้จะไม่มีแจ้งเตือน
4. ติดคุยโทรศัพท์ว่างปั๊ปต้องโทรหาใครสักคน
5. กินข้าวพร้อมดูละครหรือคลิปวิดิโอตลอดเวลา
6. หรือถ้าโทรศัพท์หรือแทบเลตแบตหมดก็จะหงุดหงิด

ถ้าหากคุณมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งแสดงว่าคุณเริ่มกำลังมีอาการติดจอและโลกโซเชียลแล้ว รวมถึงใครที่อินซีรีส์มีเรื่องราวและอารมณ์ติดในหัวไม่หยุด เช่น ดราม่าน้ำตาไหล เครียดกับการไขคดี หรือหัวร้อนกับตัวร้าย ฯลฯ ซึ่งส่งผลต่อสภาวะอารมณ์ไม่คงที่ เดี๋ยวแฮปปี้ฟินจิกหมอน เดี๋ยวก็ซึมเศร้าหม่นหมอง แบบนี้ต้องเริ่มปรับมู้ดให้ดีด้วยทริกเหล่านี้กัน

• ดูหนังจนตาล้า พักตามองสีเขียวที่สวน พักจากแสงจากหน้าจอทั้งจากสมาร์ตโฟน จอคอมพิวเตอร์ หรือจอทีวีง่าย ๆ แค่ออกไปมองสีเขียวจากต้นไม้ใบหญ้าช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และสบายตาเพราะเป็นสีโทนเย็น เมื่อร่างกายได้พัก จิตใจก็ได้ผ่อนคลายตามไปด้วย แถมได้สูดอากาศบริสุทธิ์ช่วยให้สดชื่น เบิกบาน
• งดทุกหน้าจอก่อนเข้านอน 1 ชั่วโมง สร้างช่วงเวลาพักผ่อนคุณภาพด้วยการเก็บโทรศัพท์ให้ห่างเตียง เลี่ยงแชตหรือคุยโทรศัพท์ งดการดูซีรีส์หรือหนังก่อนเข้านอน อย่างน้อย 1 ชั่วโมง จะช่วยสร้างวินัยไม่ให้ดูติดลมลากยาวเกินเวลา ซึ่งร่างกายจะปรับตัวไปตามเวลาที่นอนดึกขึ้นเรื่อย ๆ จนนอนหลับยากขึ้นหรือนอนไม่หลับ และอาจมีเรื่องรบกวนหรือรู้สึกอารมณ์ค้างจากเรื่องราวที่ติดอยู่ในหัวได้ ถ้าสามารถปรับเวลาเข้านอนให้เป็นกิจวัตร และนอนหลับให้ได้ 6 – 8 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยให้ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น ส่งผลให้อารมณ์แจ่มใส มีสมาธิ มั่นคงไม่แปรปรวนง่าย

พฤติกรรมติดหน้าจอไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่ควรรู้จักใช้อย่างพอดี ก็จะช่วยสร้างเสียงหัวเราะเติมความสุขสนุกสนานให้ชีวิตได้ และค่อย ๆ ปรับให้กิจกรรมทางหน้าจอผสานกับการดูแลสุขภาพที่ดีไปด้วยได้ตามแนวทาง 3อ. ซึ่งช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหนก็สามารถดูแลตัวเองได้ตามสไตล์คุณด้วยเคล็ดลับสุขภาพง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกคนด้วย 3 อ. คลิก

#เนสท์เล่คนไทยแข็งแรง #3อMEสไตล์ #ชอบแบบไหนก็ทำ3อแบบนั้น #ก็ชอบแบบนี้

ซื้อผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ :