ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์การทำงานมาหลายปีหรือเพิ่งสำเร็จการศึกษา Nestlé ก็มีโอกาสในการทำงานให้กับคุณ ค้นหางานได้ที่นี่
กาแฟและนม คู่หูอร่อยลงตัว พร้อมคุณประโยชน์
กาแฟและนม คู่หูอร่อยลงตัว พร้อมคุณประโยชน์
การเริ่มต้นวันใหม่ของใครหลาย ๆ คนอาจจะเริ่มนึกถึงกลิ่นหอม ๆ ของกาแฟ และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงประโยชน์ของกาแฟที่จะช่วยให้เราตื่นตัวพร้อมทำงานมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับใครมีไม่สามารถดื่มกาแฟดำได้ก็ยังมีอีกตัวเลือกก็คือ กาแฟนม นอกจากจะทำให้สามารถดื่มได้ง่ายขึ้นจากความนุ่มนวลจากนม ที่เพิ่มความหอมมันทำให้รสชาติดีขึ้นแล้ว ยังทำให้คนดื่มกาแฟได้รับคุณประโยชน์อื่น ๆ จากวิตามินและแร่ธาตุในนมอีกด้วย
คุณประโยชน์ของ ‘กาแฟนม’ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้
กาแฟนมที่เลือกใช้กาแฟคุณภาพดีและนมแท้มีประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย โดยในกาแฟจะมีสารที่มีชื่อว่า คาเฟอีน โดยมีโครงสร้างคล้ายกับสารที่ชื่อว่า อะดีโนซีน ที่จะทำให้เราง่วง โดยเมื่อคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายจะไปขัดขวางอะดีโนซีน ทำให้รู้สึกไม่ง่วงนอน กระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ตื่นตัว อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคซึมเศร้าได้ และนมก็แหล่งของโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น วิตามินบี แคลเซียม เป็นต้น โดยสารอาหารต่าง ๆ ในนมมีประโยชน์ ดังนี้
- โปรตีน ในนม 1 แก้ว (240 มิลลิลิตร) ให้โปรตีนถึง 8 กรัม เทียบเท่ากับโปรตีนจากการรับประทานเนื้อสัตว์ 2 ช้อนโต๊ะ ซึ่งช่วยในการเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และยังช่วยให้อิ่มท้อง อยู่ท้อง และยังเป็นแหล่งของพลังงานได้
- วิตามิน บี ได้แก่ วิตามิน บี 1 2 6 และ 12 ซึ่งถือว่าเป็นวิตามินที่สำคัญต่อกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย และยังมีประโยชน์ที่เฉพาะตัว ดังนี้
- วิตามิน บี 1 ช่วยป้องกันอาการเหน็บชา ช่วยให้ระบบประสาทสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ และยังมีส่วนช่วยในการย่อยอาหารประเภทแป้งไปเป็นพลังงาน
- วิตามิน บี 2 จะทำงานร่วมกับสารอื่น ๆ ในการเผาผลาญอาหารประเภทแป้ง โปรตีน และไขมัน อีกทั้งช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและพัฒนาได้เหมาะสมและยังช่วยส่งเสริมระบบประสาท
- วิตามิน บี 6 มีบทบาทที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย การเผลาผลาญโปรตีน และการสร้างเม็ดเลือดแดง
- วิตามิน บี 12 นั้นเป็นวิตามินที่ไม่สามารถพบได้ในพืชอีกทั้งยังมีความสำคัญในการผลิตเม็ดเลือดแดง การทำงานของระบบประสาทและสมอง และยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตอีกด้วย
- แคลเซียม เป็นแร่ธาตุที่มีส่วนช่วยในการรักษาความแข็งแรง รูปร่างของกระดูก รวมไปถึงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่เป็นแร่ธาตุที่คนไทย ไม่ว่าจะคนวัยทำงานหรือผู้สูงอายุมักจะขาด ซึ่งการดื่มนมสามารถช่วยให้ร่างกายได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ โดยในนม 1 แก้ว (240 มิลลิลิตร) มีแคลเซียมถึง 300 มิลลิกรัม
จากข้อมูลที่พบว่าคาเฟอีนจะมีผลทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมจากอาหารลดลง แต่ไม่มีผลต่อการขับแคลเซียมออกจากร่างกาย ดังนั้นสำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟนมจึงหมดกังวลเรื่องการดูดซึมแคลเซียมที่ลดลง เพราะการเติมนมลงในกาแฟช่วยให้ร่างกายได้รับแคลเซียมเพิ่ม ร่างกายจะสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ในปริมาณที่ต้องการ แต่อย่าลืมกินอาหารให้ได้รับแคลเซียมให้เพียงพอประมาณวันละ 800 มิลลิกรัม ต่อวัน
ไขข้อข้องใจ ดื่มกาแฟตอนไหนดี? ให้เหมาะกับเรา
กาแฟผสมนมจึงอาจเป็นอีกทางเลือกที่ทำให้เราไม่จำเป็นต้องดื่มกาแฟและนมแยกกัน ซึ่งจะให้เราได้รับทั้งประโยชน์จากกาแฟและนมไปพร้อม ๆ กัน แล้วแบบนี้เราควรเลือกดื่มกาแฟตอนไหนดีเพื่อให้ตอบโจทย์วิถีชีวิตประจำวันของแต่ละคนและเหมาะกับตัวเองมากที่สุด
1. ตอนเช้าก่อนเริ่มทำงาน
การดื่มกาแฟนมในตอนเช้านั้น จะทำให้ร่างกายพร้อมกับการทำงานไปตลอดวันด้วยการเติม คาเฟอีน ที่อยู่ในกาแฟเพื่อช่วยให้เรารู้สึกตื่นตัวมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการเติมพลังพร้อมรับวันใหม่ โดยอาจจะเลือกดื่มกาแฟนมคู่กับอาหารอื่น ๆ เช่น กาแฟนมกับแซนวิชไข่ ให้พลังงานประมาณ 400 กิโลแคลอรี หรือเลือกเป็นข้าวต้มปลาคู่กับกาแฟผสมนม ก็จะให้พลังงานประมาณ 350 กิโลแคลอรี เป็นต้น
2. เติมพลังระหว่างวัน
เราสามารถดื่มกาแฟนมเพื่อใช้เป็นการเติมพลังหรือแก้หิวระหว่างมื้อก็ได้เช่นกัน เพราะนอกจากจะช่วยให้ตื่นตัวมากขึ้นจากกาแฟและนมก็ช่วยให้เรารู้สึกหิวน้อยลงก่อนที่จะต้องไปกินอาหารในมื้อต่อไป รวมไปถึงยังเป็นการเสริมโปรตีนและแคลเซียมด้วย
3. ดื่มหลังมื้ออาหาร
การดื่มกาแฟนมหลังมื้ออาหารกาแฟจะช่วยให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลดีต่อการย่อยอาหาร อีกทั้งการดื่มกาแฟนมหลังมื้ออาหารจะทำให้ร่างกายทำการดูดซึมคาเฟอีนเข้าสู่กระแสเลือดช้าลง ทำให้คนที่ดื่มกาแฟแล้วเกิดอาการใจสั่นก็สามารถดื่มกาแฟได้นั่นเอง
4. เตรียมความพร้อม ก่อนออกกำลังกาย
การดื่มกาแฟนมก่อนออกกำลังกายนั้นจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการออกกำลังกายมากขึ้น เพราะกาแฟจะช่วยให้สมองสามารถโฟกัสกำลังการออกกำลังกาย ทำให้ออกกำลังกายได้นานยิ่งขึ้น เพิ่มการสลายไขมัน เพิ่มอุณภูมิของร่างกายที่นำไปสู่การใช้พลังงานที่มากขึ้น และสุดท้ายกาแฟจะช่วยให้ร่างกายลดการสลายไกลโคเจนหรืออาหารที่ร่างกายสะสมไว้ในรูปของคาร์โบไฮเดรต จากการออกกำลังกาย โดยควรดื่มกาแฟนมก่อนออกกำลังกายเป็นเวลาประมาณ 30 – 60 นาที เพื่อให้ฤทธิ์ของกาแฟทำงานในขณะที่ออกกำลังกาย โปรตีนจากนมทำให้อยู่ท้องในระหว่างออกกำลังกาย อีกทั้งวิตามิน บี ยังช่วยในเรื่องการเผาผลาญในร่างกายอีกด้วย
เพียงเท่านี้เราก็สามารถดื่มกาแฟนมในช่วงเวลาที่เหมาะสมกับเราได้แล้ว ซึ่งสำหรับวัยผู้ใหญ่แนะนำปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสมคือไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือประมาณการดื่มกาแฟผสมนมไม่เกินวันละ 3 – 4 แก้ว หรือเลือกเป็นกาแฟผสมนมพร้อมดื่มไม่เกินวันละ 2 กระป๋อง โดยเลือกกาแฟที่ผลิตจากจากเมล็ดกาแฟคั่วบดละเอียดคุณภาพดี ที่มีน้ำตาลน้อย หรือ ไม่มีน้ำตาล และไม่เติมนมข้นหวานเพิ่มอีก โดยควรเว้นช่วงเวลาการดื่มกาแฟก่อนเวลาเข้านอนประมาณ 6 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการนอนไม่หลับ แต่ถ้าใครยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับกาแฟรูปแบบใด สามารถเข้าไปลองค้นหาแก้วโปรดที่เหมาะกับคุณได้เลย คลิก
You may also like
-
เริ่มวันดีๆ ด้วย “โพลีฟีนอล” ในกาแฟอ่านเพิ่มเติม
นอกจากกลิ่นหอมๆ ของกาแฟที่จะทำให้คุณอารมณ์ดีในทุกเช้าแล้ว ในกาแฟแก้วเล็กๆ นี้ยังมีสารโพลีฟีนอลซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
-
3 อาหารคลายเครียด ช่วยคุณลดความเครียด อารมณ์ดี สุขภาพดีอ่านเพิ่มเติม
ร่างกายอาจเจอภาวะเครียดจนฮอร์โมนแห่งความเครียดหรือ คอร์ติซอล ฮอร์โมนที่ทำให้อยากอาหารมากขึ้นจนกลายเป็นโรคอ้วน มาเลือกทาน 3 อาหารคลายเครียดเพื่อสุขภาพที่ดี -
7 เครื่องดื่มคลายร้อน เติมความสดชื่นได้ที่บ้านอ่านเพิ่มเติม
เติมความสดชื่นให้วันแสนธรรมดาพิเศษขึ้น ด้วย 7 เมนูเครื่องดื่มคลายร้อนสุดสร้างสรรค์ที่เหมาะกับทุกคนในบ้าน มาเปลี่ยนบ้านเป็นคาเฟ่ได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องง้อร้าน -
เนสกาแฟ เชิดชูชาวสวนกาแฟไทยอ่านเพิ่มเติม
เนสกาแฟ ตระหนักถึงคุณค่าของชาวสวนกาแฟไทย ผู้อยู่เบื้องหลังกาแฟคุณภาพ จึงเดินหน้าสานต่อ โครงการ “ปลูกด้วยใจ กาแฟไทยยั่งยืนกับเนสกาแฟ” (Grown Respectfully)