Sort by
Sort by

ดื่มน้ำอย่างสนุกกับ 8 วิธีสอนลูกให้ดื่มน้ำได้มากขึ้น

ดื่มน้ำอย่างสนุกกับ 8 วิธีสอนลูกให้ดื่มน้ำได้มากขึ้น

เด็กเป็นวัยที่มีโอกาสขาดน้ำได้ง่าย เพราะมักสนุกกับการเล่นซนกลางแจ้งท่ามกลางอุณหภูมิสูงอย่างเพลิดเพลิน จึงมีอัตราการสูญเสียน้ำในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เหงื่อ การหายใจ และปัสสาวะได้มากแต่กลับไม่ได้ดื่มน้ำเพื่อชดเชยปริมาณน้ำที่สูญเสียไปอย่างเพียงพอและเหมาะสม จึงมีโอกาสเสี่ยงเกิดภาวะขาดน้ำแบบไม่รู้ตัว

คุณพ่อคุณแม่จึงต้องคอยสังเกตอาการทางร่างกายของเด็ก ๆ ที่อาจบอกว่าเขากำลังขาดน้ำอยู่ เช่น ปากแห้ง เลียริมฝีปากบ่อย มีแผลร้อนใน เหนื่อยหอบ ผิวพรรณไม่สดใส หรือผิวแห้งแตก ปัสสาวะน้อยครั้ง มีอาการอ่อนเพลีย ฯลฯ นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญกับการดื่มน้ำเพราะน้ำไม่ใช่แค่ว่าจะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างปกติ ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายแล้ว ยังช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหาร และระบบการขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น เป็นต้น โดยปริมาณน้ำที่เหมาะสมกับความต้องการของเด็กเล็กควรดื่มน้ำอย่างน้อย 6 แก้วต่อวัน และเด็กโตควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วหรือ 1.5 ลิตรต่อวัน แต่เด็กบางคนก็ยังไม่ชอบดื่มน้ำ เราจึงขอต้อนรับเข้าสู่ซัมเมอร์ด้วย 8 เทคนิคสร้างเสริมนิสัยดื่มน้ำของเด็ก ๆ ให้เพียงพอ 
เด็กเป็นวัยที่มีโอกาสขาดน้ำได้ง่าย
8 วิธีดื่มน้ำรับหน้าร้อน ให้ลูกดื่มน้ำสนุกแบบไม่ต้องลงทุน

1. ฝึกกินอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ มาปูพื้นฐานนิสัยรักการดื่มน้ำให้เด็ก ๆ โดยเริ่มจากการเลือกอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น เมนูซุป ข้าวต้ม หรือแกงจืด เป็นต้น เพื่อให้เขาทำความรู้จักกับการดื่มน้ำรูปแบบอื่นที่นอกเหนือจากน้ำนมที่เขาคุ้นเคย ให้เขาชินกับการกิน หรือดื่มน้ำครั้งละมาก ๆ ซึ่งจะช่วยสร้างเสริมพฤติกรรมการดื่มน้ำให้เขาสามารถดื่มน้ำเปล่าได้มากขึ้นในอนาคต แต่หากเด็ก ๆ ยังดื่มน้ำน้อยกว่าความต้องการอยู่ คุณพ่อคุณแม่อาจเลือกผักผลไม้ที่มีส่วนประกอบของน้ำมากเป็นอาหารว่าง เช่น แตงกวา มะเขือเทศ แตงโม แคนตาลูป สาลี่ สับปะรด เป็นต้น เพื่อช่วยให้ร่างกายเขาได้รับน้ำอย่างเพียงพอ

2. กระตุ้นด้วยเกม มาเปลี่ยนการดื่มน้ำที่แสนน่าเบื่อสำหรับเด็ก ๆ ให้สนุกขึ้นด้วยการใช้เกมมาท้าทายเขา เหมือนเป็นภารกิจให้เขารู้สึกชาเลนจ์ และต้องทำให้สำเร็จ เช่น
- แจกสติ๊กเกอร์สะสม ทุกครั้งที่เด็ก ๆ ดื่มน้ำหมดแก้ว ให้มอบสติ๊กเกอร์ให้เขานำไปติดที่แผ่นชาร์จสะสม หากในบ้านมีเด็กหลายคนจะช่วยให้เกมนี้สนุกขึ้น เพราะจะเกิดการแข่งขัน และเปรียบเทียบกันว่าใครจะสะสมได้ครบก่อนกัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เด็กมีแรงจูงใจอยากดื่มน้ำมากขึ้น
- ทำบัตรสะสมแต้ม คล้าย ๆ กับบัตรสะสมแต้มของร้านอาหาร โดยต้องตกลงกันตั้งแต่ต้นว่า หากเด็ก ๆ ดื่มน้ำขวดใหญ่ได้หมดขวดจะได้รับแต้มสะสม 1 แต้ม และหากสะสมได้ครบ 10 แต้ม จะมีรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้เขารู้สึกว่าความพยายามของเขามีคุณค่า และการดื่มน้ำเปล่าช่วยให้เขามีความสุขได้
ดึงดูดใจด้วยแก้วน้ำ และหลอดสีสันสดใส
3. ดึงดูดใจด้วยแก้วน้ำ และหลอดสีสันสดใส เป็นอีกวิธีที่ช่วยสร้างความตื่นเต้นในการดื่มน้ำเปล่า โดยใช้แก้ว หรือกระบอกน้ำที่ดึงดูดความสนใจของเด็ก ๆ โดยอาจเปิดโอกาสให้เขาเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง อาจจะเป็นตัวการ์ตูนตัวโปรด ลวดลายที่ชอบ หรือสีที่ถูกใจ ซึ่งจะช่วยให้เขาหยิบจับแก้วมาใช้ดื่มน้ำบ่อยขึ้น ให้เข้าอยากถือหรือพกกระบอกติดตัวไปทุกที่
4. หมั่นถามเด็กๆ ดื่มน้ำครั้งล่าสุดเมื่อไร หลังกลับจากโรงเรียน วิ่งเล่น หรือแม้แต่อยู่ที่บ้าน ควรหมั่นถามเขาว่าดื่มน้ำครั้งสุดท้ายเมื่อไร? การให้เขานึก และคอยตอบว่าดื่มน้ำล่าสุดเมื่อไร? จะช่วยให้เขาเข้าใจความรู้สึก ‘กระหายน้ำ’ หรือสามารถนึกขึ้นได้ว่าเมื่อผ่านเวลาไปพักหนึ่งแล้วเขาต้องดื่มน้ำสักแก้วหนึ่งด้วยตัวเอง นอกจากนี้หากเด็ก ๆ อยู่ที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่ลองใช้วิธีตั้งนาฬิกาปลุกทุก ๆ 1 ชั่วโมง เพื่อเตือนเป็นสัญญาณให้เด็กหยุดทำกิจกรรมต่าง ๆ แล้วลุกไปดื่มน้ำ

5. ทำน้ำแข็งคลายร้อน ส่วนใหญ่เด็ก ๆ มักชอบดื่มน้ำเย็นที่ช่วยให้เขารู้สึกชื่นใจ มาชวนกันทำน้ำแข็งด้วยแม่พิมพ์น้ำแข็งรูปทรงต่าง ๆ เช่น ดาว เพชร เมฆ หรือรูปสัตว์น้ำน่ารัก ที่ช่วยเสริมสร้างจินตนาการ เมื่อใส่น้ำแข็งลงในน้ำเปล่า อาจบอกเขาให้รีบดื่มน้ำให้หมดเพื่อช่วยชีวิตเหล่าสัตว์น้ำ หรือให้เขาคอยสังเกตว่าน้ำแข็งรูปทรงใดจะละลายช้าที่สุด เป็นต้น และอาจมอบหมายหน้าที่ให้เขาคอยเอาน้ำแข็งใส่แก้ว และเทน้ำเปล่าให้สมาชิกในบ้าน เพื่อให้เขารู้สึกว่าเรื่องการดื่มน้ำอยู่ภายใต้การควบคุม และความรับผิดชอบของเขา ช่วยเสริมสร้างนิสัยรักการดื่มน้ำให้เขาตั้งแต่เด็ก ๆ
6. ผลไม้สไลด์ช่วยได้ ลองสร้างรสชาติใหม่ ๆ ให้น้ำเปล่าที่แสนธรรมดามีมิติมากขึ้น โดยการอินฟิวส์ผลไม้ใส่น้ำเปล่า เพียงฝานผลไม้ที่เด็ก ๆ ชื่นชอบบาง ๆ เช่น แอปเปิลเขียว ทับทิม เบอร์รี่ ฯลฯ รวมถึงสามารถเพิ่มผลไม้เล็ก ๆ เช่น เบอร์รี่ เลมอน แช่เข้าไปในเหยือกน้ำได้ เพราะนอกจากเด็ก ๆ จะรู้สึกสนุกที่ได้เคี้ยวผลไม้พร้อมกลิ่น และรสชาติแปลกใหม่ระหว่างการดื่มน้ำ เพื่อเติมความสดชื่นแล้ว ยังเป็นการเพิ่มใยอาหาร วิตามิน และเกลือแร่ ช่วยให้เด็ก ๆ ได้ลองกินผลไม้ที่ไม่เคยลองอีกด้วย
ผลไม้สไลด์ช่วยได้
7. ดื่มน้ำเป็นตัวอย่าง โดยธรรมชาติแล้วเด็กมักจะสังเกต และเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่ หรือคนรอบข้าง การที่คุณพ่อคุณแม่ หรือคนในบ้านหมั่นดื่มน้ำเปล่าอย่างสม่ำเสมอ ดื่มน้ำเป็นกิจวัตร เช่น ดื่มน้ำ 1 แก้วหลังจากตื่นนอน ดื่มทุกครั้งหลังจากกินอาหารทุกมื้อ เตรียมขวดน้ำส่วนตัวพกออกไปนอกบ้านทุกครั้ง เป็นต้น เมื่อเด็กเห็นการกระทำเหล่านี้เขาจะค่อย ๆ ซึมซับ และเรียนรู้ว่าการดื่มน้ำเปล่าเป็นเรื่องสิ่งที่จำเป็นสำหรับร่างกาย ช่วยให้เขาอยากทำตามด้วยตัวเองเองโดยไม่ต้องคอยบอกหรือออกคำสั่ง
สร้างกำลังใจด้วยการชื่นชม
8. สร้างกำลังใจด้วยการชื่นชม นอกจากการปลูกฝัง และสอนให้เด็ก ๆ มีพฤติกรรมการดื่มน้ำเปล่าในชีวิตประจำวันแล้ว การสร้างพลังบวกจากการพูดให้กำลัง แม้ว่าเขาจะสามารถดื่มน้ำได้เองครบตามเป้าหมาย เช่น ‘ดื่มน้ำหมดแก้วโดยไม่ต้องบอกเลย เก่งมากจ้ะลูก’ หรือ ‘วันนี้หนูทำได้ดีมาก ทำต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีนะคะ’ แต่ถ้าหากเขาไม่สามารถดื่มน้ำได้ตามที่ตั้งใจไว้ก็อย่าเพิ่งโมโห หรือท้อใจ แล้วเปลี่ยนจากการบังคับ หรือการตำหนิมาเป็นคำพูดที่ช่วยเสริมกำลังใจให้เขา เช่น ‘ไม่เป็นไร ไว้ลองใหม่ แม่เชื่อว่าพรุ่งนี้ลูกต้องดื่มน้ำได้มากกว่าวันนี้แน่นอน’ หรือ ‘พยายามได้ดีแล้วคนเก่ง ค่อย ๆ ดื่มเพิ่มทีละนิด พ่อเป็นกำลังใจให้’ เป็นต้น การชื่นชมเด็กด้วยคำพูดที่เหมาะสม จะช่วยกระตุ้นความพยายาม และช่วยให้เขาพัฒนาความมั่นใจในตัวเองจนสามารถทำเรื่องต่าง ๆ สำเร็จ
เทคนิคทั้งหมดที่กล่าวมาคุณพ่อคุณแม่สามารถลองนำไปตามเพื่อปลูกฝังพฤติกรรมรักการดื่มน้ำให้เด็ก ๆ ได้ เพราะคุณพ่อคุณแม่เป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างวินัยในการดื่มน้ำให้เด็ก ๆ และต้องเสริมด้วยการให้ความรู้ว่าการดื่มน้ำมีประโยชน์ต่อร่างการเขาอย่างไร? รวมถึงคอยเตรียมน้ำดื่มที่ใสสะอาด และปลอดภัยวางไว้ใกล้ตัว ให้เขาสามารถดื่มได้ทุกเมื่อที่ต้องการดื่ม แม้ว่าในช่วงแรกอาจจะยากเพราะการดื่มน้ำของเด็กถือเป็นเรื่องที่ต้องใช้ทั้งเวลาฝึกฝนจนเป็นนิสัย และอาศัยความพยายามอย่างมากของเด็ก ๆ บวกกับความใจเย็น และความหวังดีของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการเด็ก ๆ สุขภาพดี พร้อมสำหรับการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว เติบโตสู่อนาคตอย่างแข็งแรง

คุณพ่อคุณแม่สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการเนสท์เล่เพื่อเด็กสุขภาพดี Nestlé for Healthier Kids คลิก โครงการที่มีมุ่งมั่นให้คนรุ่นใหม่ได้บริโภคอาหาร และเครื่องดื่มที่อร่อย และอุดมคุณประโยชน์ มีจุดมุ่งหมายเพิ่มพูนวิถีชีวิตให้เด็กกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก ภายในปี พ.ศ. 2573 และยังมีแผนทำโครงการอื่นเพื่อสนับสนุนระบบอาหารที่ยั่งยืน และดีต่อสุขภาพต่อไป

ซื้อผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ :