ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์การทำงานมาหลายปีหรือเพิ่งสำเร็จการศึกษา Nestlé ก็มีโอกาสในการทำงานให้กับคุณ ค้นหางานได้ที่นี่
เสริมเฮงทั้งปี ดีต่อสุขภาพ ด้วยวิถีกินดีสมดุลกับ 'อาหารมงคลตรุษจีน'
คิดถึงบรรยากาศเทศกาลตรุษจีนที่บ้านกันไหม ช่วงเวลาที่ทุกคนในครอบครัวได้กลับมารวมตัวกัน พร้อมหน้าพร้อมตาบนโต๊ะอาหาร เต็มไปด้วยเมนูของไหว้ตรุษจีนที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นไก่ต้ม หมูสามชั้น หรือขนมไหว้ตรุษจีน อย่างขนมเข่งที่กินกันตั้งแต่เด็ก ๆ อาหารเหล่านี้ไม่ใช่แค่ของอร่อย แต่เป็นตัวแทนของความรัก ความผูกพัน และความกตัญญูที่เรามีต่อบรรพบุรุษด้วยนะ
ปีนี้เนสท์เล่อยากชวนทุกคนมาลองปรับวิธีกินอาหารมงคลให้มีความสมดุล (Balanced diet) ได้ทั้งความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการ ด้วยเทคนิคง่าย ๆ 'บวก-แบ่ง-แพลน' เสริมทั้งความเป็นสิริมงคล และสุขภาพดีต้อนรับปีใหม่ไปพร้อม ๆ กัน มาดูเคล็ดลับกันเลย!
6 อาหารมงคลวันตรุษจีน กินให้สมดุล เสริมดวงพ่วงสุขภาพดี
จะดีแค่ไหนหากเราได้ลิ้มรสความอร่อย พร้อมกับเสริมดวงและความเป็นสิริมงคล ควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพให้ดีจากภายใน ลองมาดูกันว่าอาหารมงคล 6 อย่างนี้ เราจะกินให้อิ่มอร่อยและดีต่อสุขภาพได้อย่างไร
1. ไก่ พระเอกแห่งความเจริญก้าวหน้า
ไก่ ของไหว้ตรุษจีนที่ขาดไม่ได้ เป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ความสำเร็จในการค้าขาย เมื่อไหว้เสร็จแล้ว เราสามารถนำมาแปลงร่างเป็นเมนูอร่อยได้สารพัด ทั้งยังได้โปรตีนเน้น ๆ ไขมันน้อย ย่อยง่าย โดยเฉพาะสายเฮลท์ตี้ที่อยากคุมไขมัน แนะนำให้เน้นส่วนอกไก่ เพราะมีไขมันน้อยกว่าส่วนสะโพกถึง 2 เท่า
เคล็ดลับกินให้สมดุล: “บวก” ผักเข้าไป นำไก่ต้มไปผัดกับบรอกโคลี หรือผักใบเขียวอื่น ๆ เพื่อเพิ่มใยอาหารและวิตามินซี ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กจากเนื้อไก่ได้ดียิ่งขึ้น หรือจะใช้เทคนิค “แบ่ง” ไก่ 1 ตัว มาทำหลากหลายเมนู ทั้งก๋วยเตี๋ยวไก่ ยำตะไคร้ไก่ฉีก ไก่คั่วพริกกระเทียม ต้มยำไก่ หรือสเต๊กไก่ ทานคู่กับผักสด ก็อร่อยได้ไม่จำเจ แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย
2. ขนมเข่ง/ขนมเทียน หวานชื่น ราบรื่น สว่างไสว
ขนมไหว้ตรุษจีนที่สื่อถึงความสำเร็จราบรื่น ความหวานชื่นของชีวิต และความสว่างไสวเหมือนแสงเทียน แต่เจ้าขนมแสนอร่อยนี้ก็มีแป้งและน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งให้พลังงานสูงถึง 150-200 กิโลแคลอรีต่อชิ้น! เทียบเท่ากับข้าวสวย 2 ทัพพีเลยทีเดียว
เคล็ดลับกินให้สมดุล: “แพลน” การกินให้ดี เมื่อกินขนมเข่งขนมเทียนแล้ว ควรลดปริมาณอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลในมื้ออื่น ๆ ลง หรือจะเลือกขนมขนาดเล็กลง ทำจากแป้งข้าวเหนียวดำ ก็ช่วยเพิ่มวิตามินและใยอาหารได้ นอกจากนี้ ลองเปลี่ยนจากขนมหวานซ้ำ ๆ มาเป็นเมนูอาหารคาว เช่น ต๊อกบกกีขนมเข่ง หรือซุปขนมเข่ง เติมผัก เติมเนื้อสัตว์ ก็ได้สารอาหารที่หลากหลายมากขึ้น
3. ส้มสีทอง มั่งคั่ง โชคดี มีสุข
ส้มสีทอง ของไหว้ตรุษจีน ที่ชาวจีนยกให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง โชคดี และความสุข เพราะสีของส้มที่คล้ายทองคำ
เคล็ดลับกินให้สมดุล: เลือกกินส้มทั้งลูก เพื่อให้ได้ใยอาหารและวิตามินซีเต็มที่ ดีกว่าดื่มน้ำส้มคั้นที่มักมีน้ำตาลสูง หรือจะ “บวก” ส้มเข้าไปในมื้ออาหาร โดยทานคู่กับอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น เนื้อสัตว์ ไข่แดง หรือผักใบเขียว เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น หรือจะนำส้มมาทำเป็นของว่างอย่างกรีกโยเกิร์ตใส่ส้มและผลไม้อื่น ๆ ก็ได้ หรือจะครีเอตเมนูสุดสร้างสรรค์อย่างสลัดส้มสีทอง หรือปลาอบซอสส้มก็อร่อยไม่ซ้ำใคร
4. องุ่น เพิ่มพูน อายุยืนยาว กลมเกลียว
ของไหว้ตรุษจีน องุ่นแดง ผลไม้แห่งโชคลาภและความเจริญงอกงาม พวงองุ่นที่รวมกันเป็นพวง ยังสื่อถึงความสมัครสมานกลมเกลียวของคนในครอบครัว
เคล็ดลับกินให้สมดุล: องุ่นแดงอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ก็มีน้ำตาลสูง ดังนั้นควร “แบ่ง” ปริมาณการกินให้พอเหมาะ แนะนำให้กินครั้งละ 5-8 ลูก (ประมาณ 1 กำมือ) หรือจะ “บวก” องุ่นกับผลไม้อื่น ๆ เช่น ทับทิม หรือลูกฟิก ก็ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ หรือจะกินคู่กับซีเรียลทำเป็นสมูทตี้ ก็ได้ใยอาหารเพิ่มขึ้น
5. ซาลาเปา ห่อโชคลาภ สิริมงคล
ยังคงเป็นอาหารมงคลที่ได้รับความนิยมและเลือกวางบนโต๊ะไหว้อยู่เสมอ ซาลาเปา "เปา" ที่หมายถึงการห่อโชคลาภและความเป็นสิริมงคล อีกทั้งจุดสีแดงบนซาลาเปายังเป็นสีมงคลตามความเชื่อของชาวจีน
เคล็ดลับกินให้สมดุล: ซาลาเปา 1 ลูก ให้พลังงานประมาณ 150-200 กิโลแคลอรี ถือเป็นอาหารว่างที่กำลังดี ควร "แบ่ง" กินในปริมาณที่พอเหมาะ เลือกซาลาเปาลูกเล็ก หรือ "บวก" คุณประโยชน์ด้วยการเลือกซาลาเปาแป้งโฮลวีต หรือไส้คาวที่ทำจากผักหรือธัญพืช หากใครชอบไส้หวานควรเลือกไส้ถั่ว งา หรือธัญพืชแทน นอกจากนี้ยังสามารถทำเมนูซาลาเปาไส้หมูสับเห็ดหอม ซาลาเปางาดำไส้ผัก หรือซาลาเปาหมูสับเป็ดย่าง ก็อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ
6. หมี่ซั่ว อายุยืนยาว ดั่งทองคำ
หมี่ซั่ว อีกหนึ่งอาหารมงคล เส้นยาว ๆ ที่สื่อถึงอายุยืนยาว เสริมความมงคลด้วยสีเหลืองทอง จึงเป็นอีกหนึ่งเมนูที่นิยมนำมาไหว้ตรุษจีน
เคล็ดลับกินให้สมดุล: ผัดหมี่ซั่ว 1 จาน ให้พลังงาน 400-500 กิโลแคลอรี เทคนิคคือ “บวก” ผักและเนื้อสัตว์ลงไป เพิ่มสีสันและคุณค่าทางโภชนาการ หรือจะ “แบ่ง” ปริมาณการกินให้พอเหมาะ และลดปริมาณข้าวหรือแป้งอื่น ๆ ในมื้อนั้น ๆ หรือจะนำหมี่ซั่วไปทำเป็นเมนูอื่น ๆ เช่น โกยซีหมี่ หมี่ซั่วยำสไตล์เกาหลี หมี่ซั่วน้ำหมูสับ ก็อร่อยไม่จำเจ
ด้วยความเชื่อที่ว่าการได้กินอาหารมงคลในวันตรุษจีน จะนำมาซึ่งความสุขความเจริญ หากเราได้กินอาหารมงคลอย่างมีความสุข อร่อย และดีต่อสุขภาพ เราก็จะยิ่งอิ่มเอมทั้งกายและใจ ด้วยวิถีกินดีอย่างสมดุล คลิก ผ่านเทคนิค “บวก แบ่ง แพลน” จากเนสท์เล่ ให้คุณสามารถสนุกกับการกินในเทศกาลตรุษจีนได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก หรือปัญหาสุขภาพ เทศกาลตรุษจีนปีนี้ขอให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวย เฮงๆ ตลอดปี แล้วอย่าลืมนำเคล็ดลับที่ได้ไปปรับใช้กันด้วยนะ แล้วคุณจะพบว่าการทานอาหารอย่างมีความสุขควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเลย