Sorry, you need to enable JavaScript to visit this website.
Sort by
Sort by

เนสท์เล่ บริษัทที่มีความน่าเชื่อถือสูงสุดในธุรกิจอาหาร 5 ปีซ้อน ใช้นวัตกรรมยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้คนและโลก สร้างคุณค่าร่วมตอบแทนสังคม

most admired
Back to Press releases

เพราะเนสท์เล่เชื่อว่าอาหารที่ดีคือพื้นฐานสำคัญที่สุดของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยในทุกช่วงวัย โดยดําเนินธุรกิจด้วย 2 กลยุทธ์หลัก คือการขับเคลื่อนสิ่งดีๆ เพื่อผู้บริโภค Good for You และขับเคลื่อนสิ่งดีๆ เพื่อโลกของเรา Good for the Planet นับเป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของเนสท์เล่ในการเปิดพลังแห่งอาหารเพื่อเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อทุกคนในวันนี้และในอนาคตซึ่งการดำเนินการอย่างต่อเนื่องและชัดเจนมาตลอด ส่งผลให้เนสท์เล่ได้รับการโหวตให้ได้คะแนนอันดับ 1 ในกลุ่มธุรกิจอาหาร จากผลวิจัย 2024-2025 Thailand's Most Admired Company ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นองค์กรที่ประสบความสําเร็จและรักษาความเป็นผู้นําในตลาดที่โดดเด่นทั้งในด้านการบริหารการจัดการ ภาพลักษณ์ และความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม

เนสท์เล่ดําเนินธุรกิจโดยเน้นที่ 2 กลยุทธ์หลัก คือการขับเคลื่อนสิ่งดีๆ เพื่อผู้บริโภค ด้วยการทำความเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย และนําเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ รสชาติอร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการ สําหรับคนในทุกช่วงวัย ขณะเดียวกันก็แนะนำให้ผู้บริโภคมีการกินอยู่อย่างสมดุลด้วย ส่วนการขับเคลื่อนสิ่งดีๆ เพื่อโลกของเรา หมายถึงการพัฒนาและฟื้นฟูระบบอาหารในวงกว้าง โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรลุ Net Zero ภายในปี 2050 ซึ่งเราลงมือทำอย่างจริงจังในทุกส่วนของห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน การดูแลและจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปจนถึงบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกคุณวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการ และประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าวถึงวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจของเนสท์เล่

ภาพสะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามเป้าหมายของเนสท์เล่ คือการลงทุนอย่างต่อเนื่องในแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ โรงงาน และบุคลากร เช่น การขยายสายการผลิตผลิตภัณฑ์ UHT และอาหารสัตว์เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการสร้างงานให้กับคนไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมในทุกพอร์ตผลิตภัณฑ์ โดยลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ซึ่งทีมงานในประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจากศูนย์วิจัยทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค จึงสามารถรักษาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง รสชาติอร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น ตอบรับเทรนด์ของตลาดทั้งในปัจจุบันและอนาคต

นวัตกรรมถือเป็นหัวใจของการดําเนินธุรกิจที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายในการนําเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสําหรับผู้บริโภคชาวไทย และสนับสนุนให้ผู้บริโภคมีการกินอยู่อย่างสมดุล นวัตกรรมของเรามาจากความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยและเทรนด์ในประเทศ เนสท์เล่มีศูนย์วิจัยและพัฒนาถึง 23 แห่ง และศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ 10 แห่งในที่ต่างๆ ทั่วโลก กลุ่มบริษัทเนสท์เล่ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาสูงถึงประมาณ 1.7 พันล้านฟรังก์สวิส หรือประมาณ 70,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ซึ่งประเทศไทยก็ได้รับประโยชน์และนำมาต่อยอดได้ และเนสท์เล่ ประเทศไทยเองก็ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU กับโครงการ SPACE-F ซึ่งสนับสนุนสตาร์ทอัพในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอาหาร เพื่อให้มีการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่จะตอบสนองความต้องการของคนไทยให้มีอาหารรสชาติอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการ และมีการกินอยู่อย่างสมดุล

most admired

ตัวอย่างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ล่าสุดของเนสท์เล่ เช่น นมตราหมี ยูเอชที นมหมีชมพู หลังประสบความสำเร็จในแบบลิมิเต็ด อิดิชั่น ก็ได้นำกลับมาเปิดตัวและวางจำหน่ายอีกครั้ง ให้รสชาติแบบนมเย็นที่คนไทยชื่นชอบ มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และมีคุณค่าโภชนาการในแบบตราหมีที่เป็นที่รู้จัก หรือโปรเจ็กต์การคอลแลบส์ล่าสุดระหว่างไอศกรีมเนสท์เล่เอ็กซ์ตรีม X อาฟเตอร์ยู ร่วมมือกับแบรนด์คาเฟ่ขนมหวานชื่อดังในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ Nestlé Extreme x After You Shibuya Honey Toast เปลี่ยนเมนูซิกเนเจอร์ของแบรนด์คาเฟ่ให้มาอยู่ในรูปแบบไอศกรีมโคน เป็นต้น

นอกจากผลิตภัณฑ์สำหรับผู้คนแล้ว เนสท์เล่ยังใช้นวัตกรรมในการพัฒนาอาหารสัตว์เลี้ยง เช่น Purina Pro Plan Veterinary Supplements Hydra Care ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรสชาติอร่อย ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้แมวได้รับน้ำอย่างเพียงพอ และช่วยเจือจางความเข้มข้นของปัสสาวะ อาหารเปียกแบบกระป๋อง สำหรับแมว แฟนซี ฟีสต์ มีเนื้อสัมผัสและรสชาติให้เลือกมากกว่า 20 แบบ และยังเป็นแบรนด์อาหารแมวจากเนสท์เล่ เพียวริน่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และเป็นที่โปรดปรานของแมว

ในมิติด้านการดําเนินธุรกิจ เนสท์เล่เปลี่ยนผ่านสู่ Digital Transformation เพื่อนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เข้ามาช่วยทำให้กระบวนการทํางานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น เช่น การใช้ Big Data และ AI มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำการตลาดกับเนสกาแฟแบรนด์ระดับแนวหน้า โดยนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการทำ Media Audience Targeting ช่วยกำหนดเป้าหมายผู้รับสาร การได้อินไซต์ที่มีข้อมูลเชิงลึกสนับสนุนทำให้บริษัทเข้าใจความต้องการและความชอบของผู้บริโภค ส่งผลให้สามารถปรับผลิตภัณฑ์ บริการ หรือแคมเปญการตลาดให้เหมาะสมและเข้าถึงผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ได้ผลทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด หรือในส่วนของกระบวนการผลิตในโรงงาน มีการใช้ DMO หรือ Digital Manufacturing Operation เพื่อทําให้กระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นจนจบเป็นระบบดิจิทัลและเป็นไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มกำลังการผลิต

นอกจากนี้ ในฐานะบริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดจากผู้บริโภค เนสท์เล่ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนที่ครอบคลุม เพื่อสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายภายใต้หลักการ ESG ครบทุกมิติ คือ

ด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านการทำงานโดยให้ความสำคัญกับการปกป้องและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ตามแผนงานด้านความยั่งยืน Net Zero 2050 โดยมีโครงการหลักที่เนสท์เล่ให้ความสำคัญ คือการขับเคลื่อนการเกษตรเชิงฟื้นฟู หรือ Regenerative Agriculture ในสวนกาแฟและฟาร์มโคนม ด้วยการให้ความรู้และเทคนิคเกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่ดี เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตและยกระดับคุณภาพของผลิตผลทางการเกษตร ขณะเดียวกันก็ฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพและดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ ช่วยให้เกษตรกรไทยและโลกเดินหน้าอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ด้านสังคม เนสท์เล่มุ่งนําเสนอผลิตภัณฑ์ที่รสชาติอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ โดยกว่า 100 รายการได้รับการรับรองสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพอีกทั้งผลิตภัณฑ์โภชนาการสำหรับเด็กของเนสท์เล่ทั้ง 100% ก็ได้รับการเสริมแร่ธาตุและวิตามิน เนสท์เล่ยังได้ให้ความรู้ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีให้คนไทยทั่วประเทศมากว่า 16 ปี ด้านธรรมาภิบาล เนสท์เล่ยึดถือหลักธรรมาภิบาลมาโดยตลอด โดยปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ อย่างโปร่งใส มีจริยธรรมและเหมาะสม และมีแนวปฏิบัติที่สอดคล้องกับมาตรฐานสูงสุดตลอดห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งรวมถึงความปลอดภัยและคุณภาพของของผลิตภัณฑ์ของเราที่ส่งต่อไปยังผู้บริโภค

นอกเหนือจากการนําเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติอร่อยแล้ว เรายังได้ทำโครงการต่างๆ เพื่อชุมชนทั่วไทยอย่างต่อเนื่อง เช่น กิจกรรมให้ความรู้คนไทยกว่า 5.48 ล้านคนในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น การบริจาคอาหารที่เทียบเท่าได้กับอาหารจำนวน 713,000 มื้อในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา การฝึกอบรมเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟกว่า 2,900 คน เกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่ดีทางการเกษตร นอกจากนี้ การปกป้องและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมยังก้าวหน้าไปด้วยดี โดยเฉพาะการฟื้นฟูคุณภาพน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพในคลองขนมจีน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ 96% ของบรรจุภัณฑ์เนสท์เล่ประเทศไทย ได้รับการออกแบบให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้

ขณะเดียวกัน เนสท์เล่ยังมุ่งเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการพูดคุยและรับฟัง โดยได้เปิดตัวโปรแกรมใหม่ที่เรียกว่า Voice for Good ที่มุ่งส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย มีการพูดคุยกันอย่างเปิดเผย แชร์ไอเดียกัน และให้ฟีดแบ็คกันอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเชื่อมโยงเข้ากับค่านิยมของบริษัทที่มีพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นปัจจัยให้เนสท์เล่เป็นองค์กรที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อใจ ไว้วางใจ และร่วมสร้างการเติบโตไปพร้อมกัน

ที่มา: https://swiy.co/most-admired-company-brandAge