Sort by
Sort by

หน้าซีดไม่ใช่เรื่องเล็ก เช็คด่วน! คุณกำลังขาดธาตุเหล็กหรือเปล่า?

หน้าซีดไม่ใช่เรื่องเล็ก เช็คด่วน! คุณกำลังขาดธาตุเหล็กหรือเปล่า?

 

อาการขาดธาตุเหล็กเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัย และอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต

รู้ไหมคะว่า คนไทยกำลังขาดธาตุเหล็กกันเยอะมาก วัยเด็ก ผู้สูงอายุ และแม่ท้อง ถือเป็น 3 กลุ่มเสี่ยงเลยก็ว่าได้ โดยมีรายงานการสำรวจภาวะอาหารและโภชนาการของประเทศไทย ครั้งที่ 5 พ.ศ.2546 ได้พบภาวะโลหิตจางในเด็กอายุ 1-5 ปีสูงถึง 25.9% เด็กวัยเรียนอายุ 6-8 ปี 46.7% เด็กวัยเรียนอายุ 9-11 ปี 25.4% และเด็กวัยเรียนอายุ 12-14 ปี 15.7% อีกทั้งมีการสำรวจในช่วง พ.ศ. 2547-2553 ของสำนักส่งเสริมสุขภาพ พบว่า กลุ่มแม่ตั้งครรภ์ มีภาวะโลหิตจางมากถึง 18.4% นอกจากนี้ ยังมีรายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2551-2552 พบว่ากลุ่มอายุมากกว่า 80 ปี มีภาวะโลหิตจางสูงถึง 60.7% เลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุหลักของโรคนี้ มากกว่าร้อยละ 50 เกิดจากการที่ร่างกายขาดธาตุเหล็กนั่นเองค่ะ

 

อันตรายจากการขาดธาตุเหล็ก

หนูน้อยวัยทารกที่ขาดธาตุเหล็กจะมีปัญหาเรื่องการเรียนรู้ มีพัฒนาการทางสมองล่าช้า ยิ่งในช่วงขวบปีแรกอาจส่งผลเสียต่อสมองอย่างถาวร! ส่วนในเด็กวัยเรียนก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนลดลง ขาดสมาธิ ไม่กระตือรือร้น อ่อนเพลีย เฉื่อยชา สติปัญญาด้อยกว่าเพื่อน ๆ ในวัยทำงานถ้าขาดธาตุเหล็กก็ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานน้อยลง เหนื่อยง่าย และถ้าเกิดกับหญิงตั้งครรภ์ยิ่งเสี่ยงต่อการเสียชีวิตทั้งแม่และลูกเลยนะคะ  

ปรกติแล้วร่างกายของเราจะได้รับธาตุเหล็กจากเนื้อสัตว์ ประเภทสัตว์เนื้อแดง เครื่องใน ตับ ส่วนอาหารพวกผักใบเขียวและธัญพืช ก็มีธาตุเหล็กเหมือนกันนะคะแต่ดูดซึมได้น้อยกว่า ถ้าอยากให้ดูดซึมได้ดีก็ควรกินผลไม้ที่ให้วิตามินสูงตามไปด้วยค่ะ ธาตุเหล็กจะดูดซึมบริเวณลำไส้เล็กส่วนต้น โดยมีกรดในกระเพาะอาหารคอยช่วย หลังจากนั้นโปรตีนจะส่งธาตุเหล็กไปตามเซลล์ต่าง ๆ โดย 2 ใน 3 ส่วนจะไปอยู่ในเม็ดเลือดแดง (ฮีม) ซึ่งช่วยในการจับออกซิเจนและส่งไปทั่วทั้งร่างกาย ส่วนที่เหลือจะเก็บสะสมไว้ในตับ ม้าม และไขกระดูก และเป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ในสมองหลายชนิด และมีบทบาทในการทำงานของเม็ดเลือดขาวซึ่งเป็นกลไกต้านทานโรคด้วยค่ะ เห็นไหมคะว่า ธาตุเหล็กสำคัญไม่น้อยไปกว่าสารอาหารอื่น ๆ เลยล่ะ

 

วิธีป้องกันการขาดธาตุเหล็ก

  • กินอาหารที่มีธาตุเหล็กให้เพียงพอในทุกช่วงวัย สำหรับทารกนั้นไม่ต้องกังวลค่ะเขาจะได้รับธาตุเหล็กจากน้ำนมแม่อย่างเพียงพอแล้ว จนเมื่อเข้าสู่วัยเริ่มหม่ำอาหารอื่น ๆ แม่ต้องเลือกอาหารให้เหมาะสม เช่น อาหารเสริมจากธัญพืช เสริมธาตุเหล็ก ไข่แดง ตับ เลือด และผักใบเขียว ส่วนเด็กวัยเรียน ผู้ใหญ่วัยทำงาน และวัยผู้สูงอายุควรกินอาหารที่มีธาตุเหล็กเยอะ ๆ และเสริมด้วยเครื่องดื่มผสมธัญพืชที่มีธาตุเหล็กค่ะ
  • กินอาหารที่มีเนื้อสัตว์พร้อมกับผักและผลไม้สด หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีวิตามินซีสูง เพื่อช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น
  • กินเมนูตับหรือเลือด สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เช่น ต้มเลือดหมู ตับบด ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก หอยแครงลวก เป็นต้นค่ะ
  • สำหรับคนที่กินมังสวิรัติ ควรกินอาหารที่ให้วิตามินซีสูงไปพร้อมกับผักที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ผักกูด ผักแว่น ใบแมงลัก พริกหวาน กะเพราแดง ขึ้นฉ่าย หรือถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ เพื่อช่วยในการดูดซึมและนำธาตุเหล็กไปใช้ได้ดียิ่งขึ้นนะคะ