Sort by
Sort by

ไม่อยากอ้วนต้องเลิกกินเค็ม

ไม่อยากอ้วนต้องเลิกกินเค็ม

 

รู้ไหมคะว่าที่เราน้ำหนักขึ้นไม่ยอมลด อาจเป็นผลมาจากอาหารรสเค็มที่เรากินก็ได้นะ ใครอยากลดน้ำหนักให้ได้ ต้องเลิกกินเค็มด้วยวิธีต่อไปนี้ค่ะ

 

สาวๆ คนไหนที่กำลังกลุ้มใจกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำยังไงก็ไม่ยอมทั้งที่เลือกกินอาหารดีๆ ก็แล้ว ออกกำลังกายก็แล้ว มาอ่านตรงนี้ค่ะ เพราะสิ่งที่ทำให้เราอ้วนอาจมาจากอาหารรสเค็มที่เราชอบกินโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะคะ

ความอ้วนเกิดจากการกินอาหารมากเกินความต้องการของร่างกายค่ะ (Overeating) ซึ่งอาจเกิดจากชอบรสชาติอาหาร ความรู้สึกอยาก(แต่ไม่ได้หิว) หรือ แม้แต่ความผิดปกติของสารเคมีในสมองที่ทำให้รู้สึกหิวตลอดเวลา ยิ่งถ้ารวมกับการกินที่ไม่ถูกหลักโภชนาการ ไม่ออกกำลังกายด้วยแล้วล่ะก็ โรคอ้วนก็มาเยือนรูปร่างเราได้ง่ายๆ เลยค่ะ

 

อาหารรสเค็มที่มีเกลือหรือโซเดียมคลอไรด์เป็นส่วนประกอบ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เราอ้วนโดยไม่รู้ตัวค่ะ  เกลือ 1 กรัม มีโซเดียมประมาณ 400 กรัม ในอาหารรสเค็มหรือมีโซเดียมสูงจะกระตุ้นการผลิตสารโดปามีน ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ทำให้เกิดความสุข ทำให้รู้สึกอยากอาหารกินมากขึ้น คนชอบกินเค็มจึงเสี่ยงเป็นโรคอ้วนมากว่าคนไม่ชอบกินเค็มค่ะ  

นอกจากนี้ คนที่กินอาหารรสเค็มเป็นประจำ จะชอบกินของหวานและเครื่องดื่มรสหวาน เนื่องจากเมื่อร่างกายได้รับโซเดียมมาก จึงทำให้รู้สึกคอแห้ง กระหายน้ำ เพราะร่างกายต้องการรสชาติตัดเค็ม และต้องการน้ำเพื่อปรับสมดุลของโซเดียมในร่างกาย ทำให้ได้รับน้ำตาลและพลังงานสูงขึ้น การที่กินเค็มจึงเสี่ยงต่อการมีน้ำหนักตัวเกินและเป็นโรคอ้วนได้ง่ายค่ะ

 

ถ้าใครกำลังกินเค็มอยู่ ลองมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินกันด้วยวิธีนี้ค่ะ

  1. เน้นกินอาหารที่ผ่านการปรุงรสน้อย หรือใส่ส่วนผสมน้อยๆ เช่น สลัดผักผลไม้ สเต็กอกไก่อบพริกไทยดำ เป็นต้น
  2. หากเป็นอาหารสำเร็จรูป ขนม หรือเครื่องดื่ม ควรอ่านฉลากโภชนาการที่กำกับไว้ โดยปริมาณโซเดียมที่ร่างกายต้องการคือ ไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือ ประมาณ 6 กรัม (1 ช้อนชา) (คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล)
  3. เลี่ยงอาหารประเภทจังก์ฟู้ด หรือขนมคบเคี้ยวเพราะมีโซเดียมสูง
  4. ดื่มน้ำเยอะๆ ในระหว่างวัน จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น และช่วยขับสารพิษต่างๆ ในร่างกายออกมาทางปัสสาวะค่ะ
  5. เลือกของว่างระหว่างจากขนมกรุบกรอบ แครกเกอร์รสเค็ม หรือขนมรสเค็ม เป็นผลไม้ ขนมปังโฮวีต หรือ เครื่องดื่มธัญพืช เป็นต้น