หลายครั้งที่การควบคุมน้ำหนักจบลงด้วยความล้มเหลว เพราะหลายคนลดน้ำหนักผิดวิธี
การลดน้ำหนักให้สำเร็จ ต้องอาศัยทั้งความมีวินัยและการควบคุมอาหาร โดยมีหัวใจหลักอยู่ที่การทานอาหารให้พอเหมาะและได้รับสารอาหารที่เหมาะสมในแต่ละมื้อ บ่อยครั้งที่การลดน้ำหนักอย่างผิด ๆ อย่าง การลดอาหาร งดทานมื้อเช้าหรือเย็น ทานแต่ซุป ลดคาร์โบไฮเดรต ฯลฯ ปลายทางของวิธีการนี้จึงไม่ได้จบลงแค่ความล้มเหลว แต่ยังเป็นการทำลายสุขภาพ ส่งผลให้ระบบภายในต่าง ๆ และฮอร์โมนทำงานผิดปกติ
การลดน้ำหนักด้วยการทานให้น้อยที่สุดเป็นความเข้าใจผิดอย่างยิ่ง เพราะแม้แต่การนอนเฉย ๆ ร่างกายก็ยังต้องใช้พลังงานในการหายใจ ดังนั้นในแต่ละวันเราจึงควรทานอาหารที่ให้พลังงานไม่ต่ำกว่า 1,200 แคลอรี หากน้อยกว่านี้ถือว่าเสี่ยงอันตรายมาก ๆ
เรามาดูวิธีการลดน้ำหนักอย่างถูกต้องและยั่งยืนกันค่ะ
- ทานอาหารให้ครบมื้อและครบหมู่ ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
- เลือกทานอาหารประเภท ต้ม ตุ๋น อบ ยำ แทนเมนูผัด ทอด และย่าง รวมทั้งลดการทานอาหารหวาน มัน และเค็ม
- สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วยการเลือกวัตถุดิบดีต่อสุขภาพมาไว้ใกล้ตัว เช่น น้ำมันมะกอก อกไก่ ไข่ ผัก ผลไม้ โยเกิร์ต ซีเรียล นม น้ำผึ้ง ฯลฯ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ไขมันต่ำ ปริมาณน้ำตาลน้อย อย่าง เครื่องดื่มธัญญาหาร นมใส่ซีเรียล หรือผลไม้รสไม่หวาน คั่นกลางระหว่างมื้อแทนการทานขนมขบเคี้ยว หรือปล่อยให้ตนเองหิวจนเผลอทานมากในมื้อถัดไป เช่นเดียวกับการงดน้ำอัดลม แล้วหันมาดื่มน้ำเปล่า และทานผลไม้สดที่มีประดยชน์กว่าแทน
- ทานผักผลไม้สดเป็นประจำ หากทานสลัด ควรใช้วิธีตักจิ้มน้ำสลัดแทนการตักราด เพื่อป้องกันไขมันส่วนเกินจากน้ำสลัด
- ไม่ควรงดทานคาร์โบไฮเดรต เพราะอาจส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนและทำให้ระบบการเผาผลาญบกพร่อง จะยิ่งทำให้ลดน้ำหนักลงได้ยากมากขึ้น
ข้อควรระวังคือเราไม่ควรลดน้ำหนักมากเกินกว่าอาทิตย์ละ 1 กิโลกรัม หรือ 4 กิโลกรัมต่อเดือน เพราะการโหมลดน้ำหนักแบบสุดโต่งจะทำให้ร่างกายทรุดโทรม เช่น ผมร่วง ฮอร์โมนแปรปรวน ภูมิคุ้มกันลดลง ป่วยง่าย ฯลฯ ดังนั้นหัวใจของการลดน้ำหนักที่ทำให้หุ่นเฟิร์ม ร่างกายฟิต สุขภาพจิตดีเยี่ยม คือการค่อย ๆ ปรับพฤติกรรมและมีวินัยสม่ำเสมอนั่นเองค่ะ
ที่มา : คุณวรงค์พร แย้มประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและการออกกำลังกาย