น้ำหนักคุณแม่ที่เพิ่มขึ้นตอนตั้งครรภ์ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 12-15 กิโลกรัม และหลังคลอดแล้วจะลดลงไปประมาณ 5-6 กิโลกรัมซึ่งเป็นผลรวมของน้ำหนักทารก รก น้ำคร่ำ และเลือดที่ออกขณะคลอด เหลือน้ำหนักส่วนเกินประมาณ 5-9 กิโลกรัม ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณแม่ทั้งหลายไม่พึงปรารถนา แต่จะทำอย่างไรให้น้ำหนักส่วนเกินเหล่านั้นหายไป
วิธีที่ได้ผลดีที่สุดก็คือ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มีการศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กับน้ำหนักที่ลดลง พบว่าคุณแม่ที่มีน้ำหนักขึ้นตอนตั้งครรภ์ตามปกติ และเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สามารถลดน้ำหนักลงมาใกล้เคียงกับน้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ได้ภายใน 6 เดือน นั่นก็เป็นเพราะการผลิตน้ำนมแม่ต้องใช้พลังงานและไขมันที่สะสมในตัวแม่ ซึ่งต้องใช้พลังงานประมาณ 85 กิโลแคลอรี ในการผลิตน้ำนม 100 มิลลิลิตร หากแม่ผลิตน้ำนมประมาณ 850 มิลลิลิตรต่อวัน (อาจมากหรือน้อยกว่านี้ขึ้นกับความต้องการของทารก) จะต้องใช้พลังงานมากถึงวันละ 700-800 กิโลแคลอรีหรือเทียบเท่ากับการเข้าคลาสออกกำลังกาย 1 คลาสได้เลย โดยในระยะให้นมลูกแนะนำให้คุณแม่กินอาหารเพิ่มขึ้นจากปกติวันละ 500 กิโลแคลอรี หรือเทียบเท่ากับนม 1 แก้ว ข้าวสวย 2 ทัพพี เนื้อสัตว์สุก 1 ช้อนโต๊ะ และผลไม้อีก 1 ส่วน (6 ชิ้นพอดีคำ) และยิ่งคุณแม่ยืดระยะเวลาของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้นานขึ้น ก็ยิ่งช่วยให้คุณแม่ลดน้ำหนักตัวได้เร็ว
ในช่วงที่ให้นมลูก คุณแม่ไม่ควรหักโหมลดน้ำหนักโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้น้ำนมของคุณแม่ที่จะส่งผ่านไปยังลูกน้อยขาดความสมบูรณ์ แต่ให้เน้นกินอาหารที่มีประโยชน์ แต่ให้แคลอรีไม่สูง เพื่อสร้างน้ำนมที่มีคุณค่าสารอาหารให้กับลูกน้อย พร้อมกับได้น้ำหนักที่ลดลงเป็นผลพลอยได้
- ควรรับประทานเนื้อสัตว์ชนิดที่ไม่ติดมันหรือมีไขมันน้อย เช่น เนื้อปลา เนื้อหมูไม่ติดมัน และเนื้อไก่ไม่ติดหนัง
- ดื่มนมชนิดไขมันต่ำ วันละ 1 แก้ว และควรเลือกนมที่มีโฟเลตสูง และมีดีเอชเอ เพื่อพัฒนาการที่ดีของสมองและระบบประสาทของลูกน้อย
- กินผักและผลไม้ ให้หลากหลายสี เพื่อให้ได้วิตามิน แร่ธาตุ และสารพฤกษเคมีต่างๆ
- หลีกเลี่ยงน้ำอัดลม ขนมหวานต่างๆ
- ลดอาหารทอด อาหารใช้กะทิ เพราะมีไขมันสูง
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
เชื่อเถอะว่า การให้นมลูกนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้ประโยชน์ทั้งคุณแม่และคุณลูก เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไปเพลินๆ เผลอแป๊บเดียว รูปร่างก็กลับมาเหมือนเดิมแล้วค่ะ