คงไม่ใช่เด็กทุกคนที่โตขึ้นอยากจะเป็นหมอ...เหมือนอย่างโฆษณาทางทีวี เพราะการที่เด็กจะเติบโตขึ้นเป็นอะไร อาชีพไหนส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเด็กมีทักษะหรือความฉลาดที่โดดเด่นในด้านใด
เมื่อพูดถึงความฉลาด จริงๆ แล้วเด็กทุกคนล้วนมีความฉลาดอยู่ในตัว ศาสตราจารย์โฮวาร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardner) นักจิตวิทยา ผู้นำเสนอ “ ทฤษฎีพหุปัญญา ” (Theory of Multiple Intelligences) หรือแนวคิดที่ว่าความฉลาดมีหลายด้านและต่างมีความสำคัญเท่าเทียมกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะโดดเด่นในด้านไหน และแต่ละด้านผสมผสานกัน แสดงออกมาเป็นความสามารถในเรื่องใด
- ความฉลาดด้านภาษา (Linguistic Intelligence) คือ ความสามารถในการใช้ภาษารูปแบบต่างๆ สามารถรับรู้ เข้าใจภาษา และสามารถสื่อภาษาให้ผู้อื่นเข้าใจ เด็กที่มีด้านนี้โดดเด่นมักเป็น กวี นักเขียน นักพูด นักหนังสือพิมพ์ ครู ทนายความ หรือนักการเมือง
- ความฉลาดด้านตรรกศาสตร์และคณิตศาสตร์ (Logical-Mathematical Intelligence) คือ ความสามารถในการคิดแบบมีเหตุและผล การคิดเชิงนามธรรม และการคิดคำนวณทางคณิตศาสตร์ เด็กที่มีด้านนี้โดดเด่นมักเป็น นักบัญชี นักสถิติ นักคณิตศาสตร์ นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักเขียนโปรแกรม หรือวิศวกร
- ความฉลาดด้านมิติสัมพันธ์ (Visual-Spatial Intelligence) คือ ความสามารถในการรับรู้ทางสายตาได้ดี สามารถมองเห็นพื้นที่ รูปทรง ระยะทาง และตำแหน่ง อย่างสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน มีความไวต่อการรับรู้ในเรื่องทิศทาง เด็กที่มีด้านนี้โดดเด่นมักเป็นนักประดิษฐ์ วิศวกร จิตรกร นักปั้น นักออกแบบ ช่างภาพ หรือสถาปนิก
- ความฉลาดด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว (Bodily Kinesthetic Intelligence) คือ ความสามารถในการควบคุมและแสดงออกซึ่งความคิด ความรู้สึก โดยใช้อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย ความคล่องแคล่ว ความแข็งแรง ความรวดเร็ว ความยืดหยุ่น ความประณีต และความไวทางประสาทสัมผัส เด็กที่มีด้านนี้โดดเด่น มักเป็นนักกีฬา หรือไม่ก็ศิลปินในแขนง นักแสดง นักฟ้อน นักเต้น นักบัลเล่ต์ หรือนักแสดงกายกรรม
- ความฉลาดด้านดนตรี (Musical Intelligence) คือ ความสามารถในการซึมซับ และเข้าถึงสุนทรียะทางดนตรี ทั้งการได้ยิน การรับรู้ การจดจำ และการแต่งเพลง สามารถจดจำจังหวะ ทำนอง และโครงสร้างทางดนตรีได้ดี และถ่ายทอดออกมาโดยการฮัมเพลง เคาะจังหวะ เล่นดนตรี และร้องเพลง เด็กที่มีด้านนี้โดดเด่นมักจะเป็นนักดนตรี นักประพันธ์เพลง หรือนักร้อง
- ความฉลาดด้านมนุษยสัมพันธ์ (Interpersonal Intelligence) คือ ความสามารถในการเข้าใจผู้อื่น ทั้งด้านความรู้สึกนึกคิด อารมณ์ มีความไวในการสังเกต สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง สามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสม สร้างมิตรภาพได้ง่าย เจรจาต่อรอง ลดความขัดแย้ง สามารถจูงใจผู้อื่นได้ดี เด็กที่มีด้านนี้โดดเด่นมักจะเป็นครูอาจารย์ ผู้ให้คำปรึกษา นักการฑูต พนักงานขาย พนักงานต้อนรับ ประชาสัมพันธ์ นักการเมือง หรือนักธุรกิจ
- ความฉลาดด้านการเข้าใจตนเอง (Intrapersonal Intelligence) คือ ความสามารถในการรู้จัก ตระหนักรู้ในตนเอง สามารถรู้เท่าทันตนเอง ควบคุมการแสดงออกอย่างเหมาะสมตามกาลเทศะและสถานการณ์ รู้ถึงจุดอ่อน หรือข้อบกพร่องของตนเอง ในขณะเดียวกันก็รู้ว่าตนมีจุดแข็ง หรือความสามารถในเรื่องใด รู้เท่าทันอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ความคาดหวัง ความปรารถนาของตนเองอย่างแท้จริง เด็กที่มีด้านนี้โดดเด่น มักจะเป็นนักคิด นักปรัชญา หรือนักวิจัย
- ความฉลาดด้านธรรมชาติวิทยา (Naturalist Intelligence) คือ ความสามารถในการรู้จัก และเข้าใจธรรมชาติ มีความไวในการสังเกต เพื่อคาดการณ์ความเป็นไปของธรรมชาติ มีความสามารถในการแยกแยะประเภทของสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์ เด็กที่มีด้านนี้โดดเด่นมักเป็นนักธรณีวิทยา นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย หรือนักสำรวจธรรมชาติ
เด็กแต่ละคนมีความฉลาดแตกต่างกันไปเปรียบเหมือนสายรุ้งที่หลากสี เป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องสังเกตและค้นหาให้พบว่าเด็กมีความฉลาดโดดเด่นในทางใด ด้านไหนด้อยไปก็คอยเติม ด้านไหนโดดเด่นก็ส่งเสริมเพื่อให้เด็กพัฒนาได้เต็มตามศักยภาพ รับรองว่าเด็กทุกคนสามารถเป็นอัจฉริยะได้ในแบบของตัวเอง แต่จะไปถึงฝันหรือไม่ พื้นฐานสำคัญคือการมีร่างกายที่แข็งแรง เพื่อการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ ไม่มีสะดุด คุณพ่อคุณแม่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกได้ด้วยนมที่เสริมจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์และพรีไบโอติก ที่มีการวิจัยแล้วว่าช่วยสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติและลดวันเจ็บป่วยได้จริง