คุณแม่มือใหม่บางคนประสบปัญหาด้านร่างกายบางอย่างในช่วงที่ตั้งครรภ์ เราจะมาดูกันว่ามีปัญหาอะไรบ้างที่คุณอาจต้องเจอ และนำเคล็ดลับดีๆ เหล่านี้ไปใช้เพื่อให้สบายตัวขึ้นและช่วยให้คุณดูดีอยู่เสมอ
บางครั้งฉันรู้สึกมีอาการแสบหน้าอก อาการแสบหน้าอกในช่วงตั้งครรภ์อาจมีสาเหตุมาจาก
- ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ร่างกายจะมีการผลิตฮอร์โมนที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ รวมถึงกล้ามเนื้อรอบๆ ระบบทางเดินอาหาร ซึ่งการที่กล้ามเนื้อรอบระบบทางเดินอาหารคลายตัวก็จะทำให้โอกาสที่อาหารและกรดน้ำย่อยในกระเพาะย้อนขึ้นไปที่กระเพาะอาหารและขึ้นไปถึงคอของคุณ จนทำให้คุณแสบร้อนและรู้สึกไม่สบายตัว
- แรงกดที่ทารกในครรภ์ไปดันกระเพาะของคุณ แรงกดนี้สามารถทำให้เกิดภาวะเป็นกรดในกระเพาะและขึ้นไปถึงคอได้ ทำให้เกิดอาการแสบร้อนในหน้าอก
- อาการแสบร้อนหน้าอกอาจถูกกระตุ้นจากสาเหตุอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์
- แทนที่จะรับประทานอาหารมื้อใหญ่ 3 มื้อ ก็ให้รับประทานอาหารมื้อเล็กๆ ราว 5 – 6 มื้อต่อวันแทน
- รับประทานอาหารคำเล็กๆ เคี้ยวให้ละเอียดและรับประทานช้าๆ
- จำกัดการบริโภคไขมัน อาหารทอด และอาหารเผ็ดร้อน
- ดื่มน้ำหลังมื้ออาหาร ไม่ควรดื่มน้ำพร้อมมื้ออาหาร
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่อัดก๊าซและแอลกอฮอล (ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้หญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงอยู่แล้ว)
- สวมใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ที่ไม่รัดช่วงเอวจนแน่นเกินไป
- ให้นั่งหลังตรงอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เพราะการเอนตัวนอนทันทีอาจกระตุ้นให้เกิดอาการแสบร้อนกลางหน้าอกได้
- เวลานอนหลับให้ใช้หมอนหลายๆ ไปหนุนศีรษะและช่วงไหล่
ลำไส้ทำงานไม่ปรกติ ทรมานมาก
ลำไส้ของคุณทำงานไม่เป็นปรกติในช่วงที่ตั้งครรภ์หรือเปล่า นี่เป็นปัญหาปรกติที่ผู้หญิงตั้งครรภ์มักประสบ ระดับฮอร์โมนที่พุ่งพรวดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อรอบๆ ลำไส้คลายตัว และทำให้ลำไส้ทำงานช้าลง โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ของการตั้งครรภ์ แรงกดจากทารกในครรภ์ที่ไปดันลำไส้จะเพิ่มขึ้นและทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัวมากยิ่งขึ้น
วิตามินธาตุเหล็กบางประเภทอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบลำไส้ ถ้าคุณบริโภคอาหารเสริมประเภทนี้และสังเกตว่าระบบลำไส้เปลี่ยนแปลงไป คุณอาจควรปรึกษาคุณหมอของคุณ คุณอาจถูกกับวิตามินธาตุเหล็กรูปแบบอื่นมากกว่า หรือคุณหมออาจแนะนำให้คุณไปปรึกษากับนักโภชนาการเพื่อขอคำแนะนำในการรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กและไฟเบอร์สูง นี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้ระบบลำไส้ของคุณทำงานเป็นปรกติ
- รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ใยอาหารสูง ที่ช่วยในเรื่องของการระบาย อาหารที่มีใยอาหารสูงได้แก่ขนมปังโฮลเกรน, ซีเรียลที่มีไฟเบอร์สูง, ผลไม้สด, ผลไม้แห้ง (เช่นลูกพรุน), ผัก, อาหารประเภทถั่ว รวมถึงถั่วเปลือกแข็งชนิดต่างๆ ถ้าร่างกายของคุณไม่คุ้นเคยกับอาหารที่ไฟเบอร์สูง ค่อยๆ ปรับรูปแบบการบริโภคเพื่อป้องกันการเกิดแก๊สและท้องอืด
- ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ การดื่มน้ำไม่เพียงพออาจทำให้เกิดปัญหาอุจจาระแข็ง คุณควรพกน้ำดื่มติดตัวและดื่มให้ได้ราว 10 แก้วต่อวัน
- ออกกำลังกายเบาๆ การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ซึ่งช่วยให้ระบบย่อยอาหารเป็นไปอย่างราบรื่น ลองออกกำลังกายเบาๆ อย่างเช่นเดินหรือว่ายน้ำราวๆ 20 – 30 นาทีทุกวัน ก็จะช่วยให้การทำงานของลำไส้เป็นปรกติมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยาระบายในช่วงที่ตั้งครรภ์นอกจากคุณหมอจะแนะนำ และไม่ควรดื่มน้ำมันละหุ่งแบบที่โบราณแนะนำเพราะอาจจะไปรบกวนการดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุสำคัญๆ ได้
แพ้ท้องตอนเช้าๆ ในช่วงที่คุณตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณจะผลิตฮอร์โมนออกมามาก ฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นนี่เองที่เป็นสาเหตุทำให้ผู้หญิงบางคนเกิดอาการคลื่นไส้ (รู้สึกพะอืดพะอม) หรือที่เรียกกันว่า “แพ้ท้อง” อาการแพ้ท้องสามารถเกิดขึ้นในทุกช่วงของวัน อาจจะมีอาการอาเจียนร่วมด้วยหรือไม่มีก็ได้ แต่ที่พบกันบ่อยๆ อาการนี้มักจะเกิดในช่วงเช้าและเป็นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน แม้ว่าจะไม่มีวิธีแก้อาการแพ้ท้องได้ชะงัดฉับพลัน แต่ก็พอมีวิธีที่จะช่วยลดอาการพะอืดพะอมนี้ได้
- ตุนอาหารว่างที่รสไม่จัดนักอย่างเช่นแครกเกอร์ติดตัวไว้ข้างเตียง เมื่อตื่นนอน ให้เล็มแครกเกอร์สัก 2 -3 ชิ้นก่อน และพักสัก 20 – 30 นาทีก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียง
- เปลี่ยนไปรับประทานอาหารมื้อเล็กๆ และรับประทานให้บ่อย แทนที่จะเป็นมื้อใหญ่ 3 มื้ออย่างที่เคย
- หลีกเลี่ยงอาหารมันๆ อาหารรสจัด หรืออาหารที่ทอดในน้ำมันท่วม เช่นเดียวกับอาหารที่มีกลิ่นรุนแรง
- อย่าปล่อยให้ท้องว่างเกินไป เพราะอาจทำให้วิงเวียนศีรษะได้
- ลองรับประทานแครกเกอร์หรือขนมที่รสไม่จัดเวลาที่คุณรู้สึกคลื่นไส้หรือวิงเวียน
- รับประทานผลไม้ที่หลากหลายและอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงอย่างเช่นมันฝรั่ง ขนมปัง แครกเกอร์ ข้าว และพาสต้า ซึ่งกระเพาะจะสามารถรับอาหารเหล่านี้ได้ง่ายกว่า
- ดื่มน้ำหลังมื้ออาหารแทนที่จะดื่มพร้อมๆ กับมื้ออาหาร
- รับประทานวิตามินบำรุงไปพร้อมๆ กับอาหาร ไม่ควรรับประทานในช่วงที่ท้องว่าง