เพราะความเครียดเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลา วิธีรับมือกับความเครียดที่ง่ายที่สุด แถมไม่ต้องไปหาจากไหนไกลคือ “รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ” ของตัวคุณเอง เนื่องจากรายงานบางส่วนของนักจิตวิทยาบอกว่าไม่ใช่เพียงสมองจะสั่งร่างกายให้ทำสิ่งต่างๆ เท่านั้น แต่ร่างกายก็สั่งให้สมองคิดและรู้สึกได้เช่นกัน ดังนั้นแค่เริ่มยิ้มก็ส่งผลให้ความเครียดลดลงครึ่งหนึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าลองหัวเราะให้กับสิ่งแย่ๆ เชื่อเลยว่าความเครียดจะหายและทำให้คุณมองเห็นทางออกดีๆ อีกมากทีเดียว
การหัวเราะเพื่อบำบัดความเครียดไม่ได้เพิ่งมีหรือเริ่มฮิตกันในปัจจุบัน แต่ในความเป็นจริงแล้วการสอนให้ผู้ป่วยที่เครียดจัดหรือคนที่วิตกกังวลแบบว้าวุ่นจนหลุดออกจากเรื่องที่คิดไม่ได้ แก้ปัญหาด้วยการฝืนยิ้มและลองหัวเราะออกมามีมาช้านานมากจนกระทั่งถูกจัดให้เป็นความรู้หนึ่งในสาขา Psychoneuro-Immunology ซึ่งศึกษาเรื่องปัจจัยทางจิตวิทยา สมองและระบบภูมิชีวิตที่ตอบสนองต่อสุขภาพ เพราะจากการทดลองของแพทย์ในหลายยุคหลายสมัยพบว่าแค่ฝืนยิ้ม อัตราความเครียดที่วัดโดยเครื่องมือทางการแพทย์ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องมาจากไม่มีความสลดหดหู่ในอารมณ์ไปปิดกั้นออกซิเจอไม่ให้ไปหล่อเลี้ยงเซลล์และฟอกโลหิตซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญของการส่งออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง
ความสำคัญของการหัวเราะมีมากจนหลายประเทศถึงกับจัดตั้งชมรมหัวเราะบำบัดขึ้นมา โดยผู้ป่วยแต่ละคนจะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องขำขันกันในตอนเช้าเพื่อสร้างเสียงหัวเราะให้เกิดขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่เพียงอาการเครียดที่หายแบบทันตา แต่ผู้ป่วยยังสุขภาพดีขึ้น เพราะหลายคนที่มีโรคประจำตัว เมื่อได้กลับไปทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหลังจากเข้าร่วมชมรมหัวเราะบำบัดติดต่อกันเป็นเวลาสามเดือน อาการแม้จะไม่ได้หายไปอย่างปลิดทิ้งแต่ทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัดทีเดียว
ด้วยเหตุนี้จึงอยากชวนมายิ้มและหัวเราะกันให้เป็นนิสัย เนื่องจากเมื่อนับข้อดีของการหัวเราะแล้วมีมากมายทีเดียว
การหัวเราะเพื่อบำบัดความเครียดไม่ได้เพิ่งมีหรือเริ่มฮิตกันในปัจจุบัน แต่ในความเป็นจริงแล้วการสอนให้ผู้ป่วยที่เครียดจัดหรือคนที่วิตกกังวลแบบว้าวุ่นจนหลุดออกจากเรื่องที่คิดไม่ได้ แก้ปัญหาด้วยการฝืนยิ้มและลองหัวเราะออกมามีมาช้านานมากจนกระทั่งถูกจัดให้เป็นความรู้หนึ่งในสาขา Psychoneuro-Immunology ซึ่งศึกษาเรื่องปัจจัยทางจิตวิทยา สมองและระบบภูมิชีวิตที่ตอบสนองต่อสุขภาพ เพราะจากการทดลองของแพทย์ในหลายยุคหลายสมัยพบว่าแค่ฝืนยิ้ม อัตราความเครียดที่วัดโดยเครื่องมือทางการแพทย์ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องมาจากไม่มีความสลดหดหู่ในอารมณ์ไปปิดกั้นออกซิเจอไม่ให้ไปหล่อเลี้ยงเซลล์และฟอกโลหิตซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญของการส่งออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง
ความสำคัญของการหัวเราะมีมากจนหลายประเทศถึงกับจัดตั้งชมรมหัวเราะบำบัดขึ้นมา โดยผู้ป่วยแต่ละคนจะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องขำขันกันในตอนเช้าเพื่อสร้างเสียงหัวเราะให้เกิดขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่เพียงอาการเครียดที่หายแบบทันตา แต่ผู้ป่วยยังสุขภาพดีขึ้น เพราะหลายคนที่มีโรคประจำตัว เมื่อได้กลับไปทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหลังจากเข้าร่วมชมรมหัวเราะบำบัดติดต่อกันเป็นเวลาสามเดือน อาการแม้จะไม่ได้หายไปอย่างปลิดทิ้งแต่ทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัดทีเดียว
ด้วยเหตุนี้จึงอยากชวนมายิ้มและหัวเราะกันให้เป็นนิสัย เนื่องจากเมื่อนับข้อดีของการหัวเราะแล้วมีมากมายทีเดียว
- การหัวเราะจะช่วยเพิ่มระดับความเข้มข้นของแอนตี้บอดี้ที่เป็นภูมิคุ้มกันหมุนเวียนในกระแสเลือด
- การหัวเราะจะช่วยเพิ่มระดับเม็ดเลือดขาวซึ่งมีหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย
- การหัวเราะจะช่วยให้ฮอร์โมนเกี่ยวกับความเครียดลดลง
- การหัวเราะจะช่วยให้ปอดแข็งแรง หลอดลมสะอาด
- การหัวเราะจะช่วยให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย สดชื่นจนส่งผลต่อไปสู่ผิวพรรณที่สดใสกว่าเดิม
- การหัวเราะจะช่วยให้สมองแต่ละส่วนทำงานได้อย่างสัมพันธ์กันมากกว่าเดิม
- การหัวเราะจะช่วยให้ระบบหายใจดีขึ้น เพราะการหัวเราะบ่อยๆ ทำให้ปอดโล่งและหายใจไม่ติดขึ้น ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งวิถีทางที่ดีมากสำหรับการแก้ปัญหาเรื่องสุขภาพสำหรับคนที่มีปัญหาการหายใจไม่สะดวก