Sort by
Sort by

กินอย่างไรให้ชีวิตไม่ติดหวาน

กินอย่างไรให้ชีวิตไม่ติดหวาน
เมื่อใดที่เครียด เหนื่อย หรืออ่อนเพลีย เราจะรู้สึกว่าร่างกายต้องการน้ำตาลเพื่อทำให้รู้สึกสดชื่น มีแรง และอารมณ์ดีขึ้น ลองนึกดูสิเวลาเครียดคุณอยากกินอะไร เค้ก น้ำอัดลม หรือขนมหวานใช่หรือไม่ เมื่อได้กินของหวานๆ เข้าไป คุณจะรู้สึกมีพลังพร้อมกลับมาทำงานได้ใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม คำเตือนก็คือคุณไม่ควรกินอาหารหวานหรือน้ำตาลมากจนเกินไปเพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ น้ำตาลที่มากเกินกว่าความจำเป็นของร่างกายจะถูกเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมในร่างกาย ส่งผลให้เกิดปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน โรคหัวใจ โรคเบาหวาน แถมยังทำให้คุณแก่ก่อนวัยได้อีกด้วย และ ยิ่งคุณบริโภคน้ำตาลมาก ร่างกายจะกลายเป็นเสพติดความหวาน และในที่สุด คุณก็จะโหยหาน้ำตาลอยู่ตลอด ขาดไม่ได้

คุณติดความหวานหรือน้ำตาลหรือเปล่า

ผู้หญิงหลายคนถึงกับบอกว่าถ้าวันไหนไม่ได้กินของหวาน จะอยู่ไม่ได้เลยทีเดียว ถ้าอยากรู้ว่าตัวเองติดน้ำตาลจริงไหม ให้ลองสังเกตดูว่าถ้าวันไหนไม่ได้กินของหวานแล้วคุณรู้สึกอย่างไรบ้าง บางคนถ้าขาดน้ำตาล อาจจะเสียการควบคุมตัวเองและกินอาหารมากกว่าปกติ หรือบางคนอาจจะรู้สึกเครียด กระสับกระส่าย ตัวสั่น เหงื่อออก หรือหงุดหงิด ก็เป็นได้ หรือสังเกตง่ายๆ ว่า ไม่ว่าจะกินอะไรก็ต้องมีรสชาติหวานนำ นั่นก็แสดงว่าคุณมีอาการติดหวานแล้วล่ะ

กินอย่างไรให้ชีวิตไม่ติดหวาน

  • คุณอาจคิดว่าตัวเองติดน้ำตาล แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่หรอก ร่างกายก็ไม่ได้ต้องการน้ำตาลมากขนาดนั้น วิธีที่เราขอแนะนำคือ ไม่จำเป็นต้องกินของหวานในทุกๆ มื้อ ถ้ารู้สึกหิวแนะนำให้กินผลไม้รสไม่หวานจัด เช่น ฝรั่ง หรือแอปเปิลซักลูก ควรหลีกเลี่ยงอาหารหรือขนมที่มีรสหวานจัด หรือถ้าหิวมากๆ อาจดื่มนมไขมันต่ำรสจืดสักแก้ว หรือโยเกิร์ตชนิดปราศจากน้ำตาลก็ช่วยได้
  • ลดปริมาณน้ำตาลเวลาชงกาแฟหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่คุณชงดื่มเอง หรือเวลาไปสั่งเครื่องดื่มตามร้านต่างๆ ที่แม้ค้าชงให้ ซึ่งปกติจะใส่ทั้งนมข้นหรือน้ำเชื่อมเป็นช้อนๆ ก็อย่าลืมรีบสั่งเป็นแบบหวานน้อย ลองค่อยๆ ปรับทีละนิด ลิ้นและร่างกายของคุณก็จะเริ่มปรับตัวและชินกับรสที่ไม่หวาน เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก คุณจะแปลกใจว่าเคยกินอาหารที่มีน้ำตาลหรือความหวานมากขนาดนั้นได้อย่างไร 
  • เลือกดื่มน้ำเปล่า แทนน้ำหวานต่างๆ
  • เวลากินอาหารไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวหรือเมนูอื่นๆ อย่าปรุงเพิ่มโดยเติมน้ำตาลลงไปอีก โดยเราควรจำกัดการบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน
  • เลือกกินอาหารที่มีไฟเบอร์ โดยเฉพาะผักผลไม้ ธัญพืชหรือผลิตภัณฑ์จากโฮลเกรนชนิดต่างๆ เช่น ซีเรียลโฮลเกรน ช่วยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงจนเกินไป นอกจากนี้ การบริโภคโฮลเกรนเป็นประจำ ยังช่วยลดความเสี่ยงโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจได้อีกด้วย
  • อ่านฉลากก่อนซื้อผลิตภัณฑ์อาหาร เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลน้อยๆ