กรุงเทพฯ – 6 กันยายน 2561 – ผลิตภัณฑ์ไมโล จัดกิจกรรม “ไมโล แคมป์” อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยเติบโตสู่ความสำเร็จด้วยกีฬา ตามแนวคิดที่ว่ากีฬาคือครูชีวิต โดยนำทัพ 50 สุดยอดนักเตะเยาวชนไทยที่โชว์ฟอร์มการเล่นเป็นเลิศและแสดงสปิริตน้ำใจนักกีฬาจากการแข่งขัน “ไมโล ฟุตซอล 2018 Road to Barcelona” เข้าค่ายเรียนรู้เทคนิคและฝึกทักษะระดับโลกกับ 3 สตาฟฟ์โค้ชมืออาชีพจากสโมสรฟุตซอลบาร์เซโลน่า ได้แก่ มร. อัลแบร์โต อดามุส ปอร์ราส มร. ฮาเวียร์ โลเปซ คิเมเนส และ มร.ฆอร์ดี้ ปาเลา อเซนซิโอ้ ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคมจนถึงวันที่ 2 กันยายน 2561 ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี โรงฝึกกีฬาอเนกประสงค์ จ.ชลบุรี พร้อมกันนี้ ยังได้คัดเลือกเยาวชนอายุระหว่าง 7-12 ปีจำนวน 8 คน โดยการตัดสินของสตาฟฟ์โค้ชชั้นนำของประเทศไทย นำทีมโดย ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน และสตาฟฟ์โค้ชจากสโมสรฟุตซอลบาร์เซโลน่า เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยบินไปฝึกทักษะระดับโลกผ่านโปรแกรม “บาร์ซ่า อคาเดมี่” ที่คัมป์นู สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน
นายไชยงค์ สกุลบริรักษ์ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์นมและโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “นับเป็นปีที่สองที่ไมโลได้ร่วมมือกับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่าซึ่งเป็นทีมสโมสรฟุตบอลชั้นนำระดับโลกและเป็นหนึ่งในสโมสรขวัญใจของคนไทยที่มีนักเตะชื่อดังร่วมอยู่ในทีมอย่างลีโอเนล เมสซี่และหลุยส์ ซัวเรซ ในการจัด “ไมโล ฟุตซอล 2018 Road to Barcelona” บนความเชื่อเดียวกันในเรื่องการส่งเสริมเยาวชนให้เติบโตสู่ความสำเร็จด้วยกีฬา เพราะกีฬาคือครูชีวิต และต่อยอดด้วยกิจกรรม “ไมโล แคมป์” ซึ่งเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เปิดโอกาสให้น้องๆ ได้เรียนรู้เทคนิคกีฬาฟุตซอลจากโค้ชผู้เชี่ยวชาญของสโมสรฟุตซอลบาร์เซโลน่าในการรู้จักร่างกายและความสามารถของเขาในกีฬาฟุตซอลให้มากยิ่งขึ้น ฝึกเรียนรู้จิตวิทยา และการมีน้ำใจนักกีฬา ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ส่งเสริมให้เยาวชนไทยและผู้ปกครองเห็นความสำคัญของการเล่นกีฬาและหันมาออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น
ในกิจกรรมไมโล แคมป์ ได้แบ่งกลุ่มน้องๆ ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ช่วงอายุ 7-8 ปี และ 9-10 ปี กลุ่มที่ 2 ช่วงอายุ 11-12 ปี และ 13-15 ปี ซึ่งน้องๆ จะได้รับความรู้ที่อัดแน่นทั้งเรื่องของเทคนิคและกลยุทธ์การเล่นฟุตซอลในสไตล์ของสโมสรฟุตซอลบาร์เซโลน่า ซึ่งนับว่าเป็นทักษะระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคเคลื่อนไหวร่างกายที่รวดเร็วคล่องแคล่ว ตลอดจนเทคนิคการเล่นเป็นทีมอย่างแข็งแกร่ง ตลอดจนการเรียนรู้เทคนิคด้านจิตวิทยาในการวิเคราะห์เกม ซึ่งประกอบด้วย
- การฝึกทักษะส่วนบุคคลและเทคนิคร่วมกันเป็นทีม (การครองบอล การใช้ขาข้างที่ถนัดและไม่ถนัด การเลี้ยงลูกบอล และวิธีการหลอกสายตาฝั่งตรงกันข้าม)
- การฝึกทักษะจิตวิทยาเพื่อวิเคราะห์เกมว่าทีมตนเองเป็นทีมที่เหนือกว่าหรือด้อยกว่าในการแข่งขัน
- การฝึกทักษะการเล่นเกมรุกในแต่ละตำแหน่งและทักษะการเล่นเป็นทีมและทักษะรายบุคคล
- การฝึกทักษะการเล่นเกมรับและการสวนเกม
- การฝึกทักษะการจบเกมและทำประตูอย่างรวดเร็ว (ในตำแหน่งการยืนของสนามที่แตกต่างกัน ในสถานการณ์และพื้นที่ต่างๆ)
และสุดท้ายก็มาถึงอีกหนึ่งช่วงไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอยกับการประกาศรายชื่อตัวแทนเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 7-12 ปี จำนวน 8 คนที่มีทักษะการเล่นที่ยอดเยี่ยม พร้อมแสดงสปิริตมีน้ำใจนักกีฬาในไมโล แคมป์ได้อย่างโดดเด่น ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยบินลัดฟ้าไปสัมผัสประสบการณ์ระดับโลกด้วยการเรียนรู้เทคนิคฟุตบอลผ่านโปรแกรมการฝึก บาร์ซ่า อคาเดมี่ ณ คัมป์นู สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน โดยน้องๆ เยาวชนที่ได้รับคัดเลือก ได้แก่
- เด็กชายธนวัฒน์ โกพลรัตน์ รุ่น 7-8 ปี จากทีมโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาในพระอุปถัมภ์ จังหวัดภูเก็ต
- เด็กชายพีรดา หล้าสวัสดิ์ รุ่น 9-10 ปี จากทีมบุรารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ
- เด็กชายโธมัส จูเนียร์ ไท ชมิทท์ รุ่น 7-8 ปี จากทีมทีเอสบี ยูไนเต็ด จังหวัดกรุงเทพมหานคร
- เด็กหญิงมาติการ ท่าพริก รุ่น 9-10 ปี จากทีมบอยท่าพระจันทร์ จังหวัดกรุงเทพมหานคร
- เด็กชายอีธาน เดวิด รุ่น 9-10 ปี จากทีมโรงเรียนวัดกู้ (นครปากเกร็ด) เอ จังหวัดนนทบุรี
- เด็กชายกอบชัย เจิมประดิษฐ์วงศ์ รุ่น 11-12 ปี จากทีมพระหฤทัยคอนแวนต์ จังหวัดกรุงเทพมหานคร
- เด็กชายนฤกฤศ แสงสว่าง รุ่น 9-10 ปี จากทีมโรงเรียนวัดกู้ (นครปากเกร็ด) เอ จังหวัดนนทบุรี
- เด็กหญิงลลิตา กวินสนธิมาศ รุ่น 11-12 ปีจากทีมบุรารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ
ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ที่ปรึกษาด้านนโยบายการกีฬา สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ กล่าวว่า “ปีนี้เป็นปีที่ 2 แล้วที่ผมได้มาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการคัดเลือกน้องๆ เยาวชนไปฝึกทักษะกันที่สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่า จากที่ผมได้เฝ้าดูน้องตลอดตั้งแต่ช่วงรอบคัดเลือก แข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ตลอดจนกิจกรรมไมโล แคมป์ ผมยืนยันได้เลยว่า เด็กไทยมีทักษะพื้นฐานการเล่นฟุตซอลที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้เด็กชาติอื่นๆ เหมือนเพชรที่รอการเจียระไนให้เป็นเพชรที่มีคุณภาพซึ่งการจัด “ไมโล แคมป์” เปรียบเสมือนการเจียระไนเหล่านักเตะรุ่นจิ๋วให้มีคุณภาพมากขึ้น สำหรับผลการตัดสินในครั้งนี้ ทางทีมสตาฟฟ์โค้ชไทยได้ทำงานร่วมกันกับทีมโค้ชสโมสรฟุตซอลบาร์เซโลน่า ซึ่งบอกเลยว่า เป็นการตัดสินที่ยากมากครับ เพราะเด็กๆ เก่งมากและมีน้ำใจนักกีฬาที่ยอดเยี่ยมมากกันทุกคนจริงๆ ผมต้องขอแสดงความยินดีกับน้องๆ ทั้ง 8 คนที่จะได้รับประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต และขอให้น้องๆ เก็บเกี่ยวความรู้มาพัฒนาตัวเองกันเยอะๆ นะครับ”
นายไชยงค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมต้องขอแสดงความยินดีกับน้องๆ ทั้ง 8 คนที่จะได้ไปเรียนรู้ทักษะฟุตบอลกันผ่านโปรแกรมการฝึก บาร์ซ่า อคาเดมี่ ณ คัมป์นู สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน และสำหรับน้องๆ ที่ไม่ได้รับคัดเลือกก็ไม่ต้องเสียใจนะครับเพราะทุกคนแสดงความสามารถให้คนไทยทุกคนเห็นถึงความสามารถกันทั้งประเทศแล้วครับ สุดท้ายนี้ผมต้องขอขอบคุณผู้ปกครองและโค้ชทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเด็กๆ เยาวชนเล่นกีฬาเป็นอย่างดี จนถือว่าวันนี้น้องๆ ทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันไมโล ฟุตซอล 2018 Road to Barcelona ได้ประสบความสำเร็จไปอีกก้าวหนึ่งของชีวิตกันเพราะกีฬาคือครูชีวิตครับ”
สำหรับน้องๆ เยาวชนที่รักในกีฬาฟุตซอลและสนใจเข้าร่วมกิจกรรม “ไมโล ฟุตซอล” ในปีหน้า สามารถติดตาม และเข้าร่วมกิจกรรมดีๆ จากไมโลได้ที่ Facebook MILO Thailand