สำหรับหลายๆ คน กาแฟกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันอย่างหนึ่ง และต้องดื่มทุกเช้า เพราะติดใจในกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟที่ได้จิบเมื่อไหร่ ก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย กระปรี้กระเปร่า และกระฉับกระเฉง แต่นอกจากกลิ่นหอมๆ ของกาแฟที่จะทำให้คุณอารมณ์ดีในทุกเช้าแล้ว ในกาแฟแก้วเล็กๆ นี้ยังมีสาร “โพลีฟีนอล” ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
ร่างกายคนเราถูกจู่โจมด้วยอนุมูลอิสระตลอดเวลา เจ้าอนุมูลอิสระนี้เป็นโมเลกุลที่อยู่ไม่สุข มีความไวต่อการเกิดปฏิกิริยามากๆ คอยแต่จะทำปฏิกิริยากับโมเลกุลต่างๆ ภายในร่างกาย ก่อให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อร่างกาย เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า และผิวพรรณ รวมทั้งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด ต้อกระจก ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง อัลไซเมอร์ เบาหวาน มะเร็ง เป็นต้น
สารอนุมูลอิสระนี้พบได้ตลอดเวลาในร่างกาย มีแหล่งที่มา 2 แหล่งคือจากภายในร่างกาย เช่น การเผาผลาญอาหาร การหายใจ การออกกำลังกาย และภายนอกร่างกายคือ ความเครียด การติดเชื้อ มลพิษในอากาศ เป็นต้น นอกจากนั้นเมื่อคนเราอายุมากขึ้น เซลล์ในร่างกายทุกเซลล์จะผลิตอนุมูลอิสระมากขึ้นและความสามารถในการซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกาย รวมทั้งความสามารถในการกำจัดอนุมูลอิสระก็ลดลง เมื่อสองสิ่งนี้ผนวกกำลังเข้าด้วยกัน หนึ่ง เร่งทำลาย สอง ลดการซ่อมแซม ผลจึงทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว
ร่างกายจึงต้องการสารต้านอนุมูลอิสระหรือแอนติออกซิแดนซ์ขึ้นมาสู้รบกับอนุมูลอิสระ และมีการค้นพบว่าในเมล็ดกาแฟสดๆ จากต้นกาแฟที่ยังไม่ผ่านการคั่วนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติหรือโพลีฟีนอลที่ชื่อว่า “กรดคลอโรจินิก” ส่วนเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่ว กรดคลอโรจินิกจะรวมตัวกับคาร์โบไฮเดรต กรดอะมิโนและโปรตีนในเมล็ดกาแฟเปลี่ยนเป็นสารโพลีฟีนอลที่ชื่อว่า “เมลานอยดินส์” ที่ยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นการดื่มกาแฟแก้วเล็กๆ ในทุกเช้าจึงให้ประโยชน์มากกว่าที่คิด