อากาศที่ร้อนจัด ไม่ได้นำมาเพียงแค่เหงื่อไคล ความเมื่อยล้า และความหงุดหงิดที่ต้องสู้ทนกับความร้อนเพียงเท่านั้น แต่ยังนำมาซึ่งโรคต่างๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพมากมาย สาเหตุสำคัญ เนื่องมาจากความร้อนคือสิ่งที่แบคทีเรียชื่นชอบอย่างมาก ยิ่งร้อนเท่าไหร่ก็ยิ่งโตได้เร็วขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้อาหารบูดเสียเร็วกว่าเดิม ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตเป็นพิเศษ
เมื่อจัดอันดับโรคที่มากับหน้าร้อนแล้ว พบว่านี่คือ 4 อันดับโรคอันตรายที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด
1. อาหารเป็นพิษ อาหารเป็นพิษ คือโรคสุดฮิตในหน้าร้อน เป็นโรคทางเดินอาหารที่พบบ่อยมาก สาเหตุหลักเกิดมาจากสารพิษของแบคทีเรียซึ่งเพาะตัวอย่างรวดเร็วในหน้าร้อนตกค้างอยู่ในอาหารส่งผลให้ท้องเสียได้ง่าย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมจากที่เคยรับประทานส้มตำแล้วไม่เป็นอะไร แต่ทำไมหน้าร้อนถึงท้องเสียในทันที วิธีป้องกันง่ายๆ คือรับประทานอาหารที่สุกและไม่ทิ้งไว้ค้างคืนเด็ดขาด
อาการของอาหารเป็นพิษมีหลายระดับ บางคนเมื่ออาหารเป็นพิษจะถ่ายเป็นน้ำ แต่ไม่มีมูกเลือด ไม่มีไข้ซึ่งจะหายได้เอง ควรดื่มเกลือแร่สำหรับแก้ท้องเสียเพื่อทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่เสียไปกับการถ่ายอุจจาระหรืออาเจียน แต่ถ้าอาหารเป็นพิษขั้นรุนแรง มีทั้งอาการท้องเสียควบคู่ไปกับการอาเจียน ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
2. ไข้ไทฟอยด์ เชื้อไทฟอยด์จะปนเปื้อนอยู่ในอาหารหรือน้ำดื่มที่ไม่สะอาด ผู้ที่ติดเชื้อมักจะมีอาการเฉียบพลัน ถ้าเป็นรุนแรงอาจเสียชีวิตได้ อาการที่เห็นได้ชัดคือจะมีไข้ ปวดเนื้อปวดตัว คลื่นไส้ อาจมีหัวใจเต้นช้าลง (โดยทั่วไปแล้วเวลามีไข้หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น) อาการเหล่านี้ต้องรีบไปหาหมอแน่นอนอย่ารอช้า นอกจากนี้อาจจะพบว่าม้ามบริเวณใต้ชายโครงด้านซ้ายโต แต่ต้องยืนยันด้วยการตรวจเลือด การรักษาก็จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะ จริงๆ แล้วไทฟอยด์สามารถป้องกันได้โดยการให้วัคซีน แต่อาจป้องกันไม่ได้ร้อยเปอร์เซนต์ ดังนั้นวิธีป้องกันดีที่สุดคือ ระมัดระวังเรื่องอาหารและน้ำดื่ม ทั้งประหยัด ปลอดภัย ไม่เปลืองสตางค์ ไม่ต้องเสียเวลาไปพบแพทย์ และไม่เจ็บตัว
3. ไวรัสตับอักเสบชนิดเอ อีกโรคที่บ่อยไม่แพ้กันก็คือไวรัสตับอักเสบชนิดเอ โดยทั่วไปจะติดต่อผ่านทางคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่ง ผ่านการปนเปื้อนไปกับน้ำ น้ำแข็ง ผลไม้ หรืออาหารที่รับประทานโดยไม่ได้ผ่านการหุงต้ม หากคุณหรือคนที่คุณรักเกิดรับเชื้อนี้เข้าไป ก็จะทำให้มีไข้ ปวดเนื้อปวดตัว คลื่นไส้ อาเจียน ปวดไม่สบายภายในท้อง จากนั้นสองสามวันก็จะตามมาด้วยอาการตัวเหลืองตาเหลือง และก็แน่นอนที่สุดหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องไปพบแพทย์
แต่ยังดีที่โรคไวรัสตับอักเสบเอนี้ สามารถฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไว้ก่อนได้ นอกจากนี้เชื้อจะตายเมื่อโดนความร้อนโดยการต้มหรือหุงที่อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส นานอย่างน้อย 1 นาที ดังนั้นคุณจึงควรเลือกรับประทานอาหารหรือน้ำที่ผ่านความร้อนระดับนี้ ยกเว้นเชื้ออาจจะปนเปื้อนลงไปในอาหารภายหลังที่หุงต้มแล้ว
4. ไมเกรน โรคสุดท้ายเป็นโรคแถมประจำหน้าร้อน ไม่เกี่ยวกับอาหารการกินแต่มีคนเป็นจำนวนมาก ก็คือไมเกรน ใครที่มีโรคนี้เป็นโรคประจำตัวคงเกลียดหน้าร้อน เพราะอาการมักกำเริบให้ทรมานในช่วงนี้ แนวทางป้องกันคือเลี่ยงการอยู่ในที่ร้อนเท่าที่จะทำได้ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานยาป้องกันไมเกรนก่อนนอน ดื่มน้ำเย็นหรืออมน้ำแข็งไปด้วยขณะต้องเดินอยู่ท่ามกลางความร้อน และหากเริ่มมีอาการอย่าปล่อยไว้ให้รีบรับประทานยาทันที
Tips ข้อควรระวังในการเลือกอาหารและน้ำดื่มในหน้าร้อนนี้ ล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร
เมื่อจัดอันดับโรคที่มากับหน้าร้อนแล้ว พบว่านี่คือ 4 อันดับโรคอันตรายที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด
1. อาหารเป็นพิษ อาหารเป็นพิษ คือโรคสุดฮิตในหน้าร้อน เป็นโรคทางเดินอาหารที่พบบ่อยมาก สาเหตุหลักเกิดมาจากสารพิษของแบคทีเรียซึ่งเพาะตัวอย่างรวดเร็วในหน้าร้อนตกค้างอยู่ในอาหารส่งผลให้ท้องเสียได้ง่าย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมจากที่เคยรับประทานส้มตำแล้วไม่เป็นอะไร แต่ทำไมหน้าร้อนถึงท้องเสียในทันที วิธีป้องกันง่ายๆ คือรับประทานอาหารที่สุกและไม่ทิ้งไว้ค้างคืนเด็ดขาด
อาการของอาหารเป็นพิษมีหลายระดับ บางคนเมื่ออาหารเป็นพิษจะถ่ายเป็นน้ำ แต่ไม่มีมูกเลือด ไม่มีไข้ซึ่งจะหายได้เอง ควรดื่มเกลือแร่สำหรับแก้ท้องเสียเพื่อทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่เสียไปกับการถ่ายอุจจาระหรืออาเจียน แต่ถ้าอาหารเป็นพิษขั้นรุนแรง มีทั้งอาการท้องเสียควบคู่ไปกับการอาเจียน ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
2. ไข้ไทฟอยด์ เชื้อไทฟอยด์จะปนเปื้อนอยู่ในอาหารหรือน้ำดื่มที่ไม่สะอาด ผู้ที่ติดเชื้อมักจะมีอาการเฉียบพลัน ถ้าเป็นรุนแรงอาจเสียชีวิตได้ อาการที่เห็นได้ชัดคือจะมีไข้ ปวดเนื้อปวดตัว คลื่นไส้ อาจมีหัวใจเต้นช้าลง (โดยทั่วไปแล้วเวลามีไข้หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น) อาการเหล่านี้ต้องรีบไปหาหมอแน่นอนอย่ารอช้า นอกจากนี้อาจจะพบว่าม้ามบริเวณใต้ชายโครงด้านซ้ายโต แต่ต้องยืนยันด้วยการตรวจเลือด การรักษาก็จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะ จริงๆ แล้วไทฟอยด์สามารถป้องกันได้โดยการให้วัคซีน แต่อาจป้องกันไม่ได้ร้อยเปอร์เซนต์ ดังนั้นวิธีป้องกันดีที่สุดคือ ระมัดระวังเรื่องอาหารและน้ำดื่ม ทั้งประหยัด ปลอดภัย ไม่เปลืองสตางค์ ไม่ต้องเสียเวลาไปพบแพทย์ และไม่เจ็บตัว
3. ไวรัสตับอักเสบชนิดเอ อีกโรคที่บ่อยไม่แพ้กันก็คือไวรัสตับอักเสบชนิดเอ โดยทั่วไปจะติดต่อผ่านทางคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่ง ผ่านการปนเปื้อนไปกับน้ำ น้ำแข็ง ผลไม้ หรืออาหารที่รับประทานโดยไม่ได้ผ่านการหุงต้ม หากคุณหรือคนที่คุณรักเกิดรับเชื้อนี้เข้าไป ก็จะทำให้มีไข้ ปวดเนื้อปวดตัว คลื่นไส้ อาเจียน ปวดไม่สบายภายในท้อง จากนั้นสองสามวันก็จะตามมาด้วยอาการตัวเหลืองตาเหลือง และก็แน่นอนที่สุดหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องไปพบแพทย์
แต่ยังดีที่โรคไวรัสตับอักเสบเอนี้ สามารถฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไว้ก่อนได้ นอกจากนี้เชื้อจะตายเมื่อโดนความร้อนโดยการต้มหรือหุงที่อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส นานอย่างน้อย 1 นาที ดังนั้นคุณจึงควรเลือกรับประทานอาหารหรือน้ำที่ผ่านความร้อนระดับนี้ ยกเว้นเชื้ออาจจะปนเปื้อนลงไปในอาหารภายหลังที่หุงต้มแล้ว
4. ไมเกรน โรคสุดท้ายเป็นโรคแถมประจำหน้าร้อน ไม่เกี่ยวกับอาหารการกินแต่มีคนเป็นจำนวนมาก ก็คือไมเกรน ใครที่มีโรคนี้เป็นโรคประจำตัวคงเกลียดหน้าร้อน เพราะอาการมักกำเริบให้ทรมานในช่วงนี้ แนวทางป้องกันคือเลี่ยงการอยู่ในที่ร้อนเท่าที่จะทำได้ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานยาป้องกันไมเกรนก่อนนอน ดื่มน้ำเย็นหรืออมน้ำแข็งไปด้วยขณะต้องเดินอยู่ท่ามกลางความร้อน และหากเริ่มมีอาการอย่าปล่อยไว้ให้รีบรับประทานยาทันที
Tips ข้อควรระวังในการเลือกอาหารและน้ำดื่มในหน้าร้อนนี้ ล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร
- ไม่ควรซื้ออาหารตามหาบเร่หรือแผงลอย หากไม่แน่ใจว่าสะอาดพอหรือเห็นว่าอาหารถูกปรุงเสร็จใหม่ๆ
- เลือกดื่มน้ำดื่มที่ต้มแล้ว และน้ำแข็งที่ผ่านกระบวนการกรองฆ่าเชื้ออย่างถูกต้องในขั้นตอนการผลิต
- ไม่รับประทานผลไม้ที่ปลอกไว้แล้ว เช่น ที่ขายตามท้องถนน และมีแมลงวันตอมควรเป็นผลไม้ที่ปลอกเองดีกว่า