Sort by
Sort by

ปลอดการใช้น้ำ

การลดการใช้น้ำจนเป็นศูนย์ในการผลิตเป็นเรื่องที่เป็นไปได้อย่างไร
zero water factory

อุตสาหกรรมเป็นธุรกิจที่กระหายการใช้น้ำ อุตสาหกรรมทั่วโลกเป็นผู้ใช้น้ำจืดมากที่สุดรองลงมาจากเกษตรกรรม น้ำที่เราใช้ประมาณ 22% ถูกใช้ไปในอุตสาหกรรม, เมื่อเทียบกับ (pdf, 2 Mb) 8% ที่เราใช้ในครัวเรือน

ในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว ในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว มีถึงประมาณ 6,000 ล้านลิตรต่อวัน แล้วเป็นไปได้อย่างไรที่โรงงานจะลดการใช้น้ำลงจนเหลือศูนย์

นวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยี

ในการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ นวัตกรรมมักจะมีบทบาทสำคัญอยู่เสมอ ซึ่งในกรณีโรงงานผลิตนมผงของเนสท์เล่ในเมือง Lagos de Moreno ในประเทศเม็กซิโกก็เช่นกัน

โรงงานอันล้ำสมัยเพิ่งเปิดดำเนินการในปี 2014 แห่งนี้ใช้การดึงน้ำออกมาจากน้ำนมที่กำลังผ่านกระบวนการแปรรูปแทนที่จะดึงน้ำมาใช้จากแหล่งน้ำภายนอก ด้วยเทคนิคดังกล่าว โรงงานแห่งนี้สามารถประหยัดการใช้น้ำลงได้ถึง 1.6 ล้าน ซึ่งคิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ของน้ำที่เนสท์เล่ใช้ในประเทศเม็กซิโกทั้งหมด และอีกไม่นาน เทคโนโลยีที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงโรงงานในเม็กซิโกนี้จะช่วยให้โรงงานอื่นๆ ประหยัดน้ำได้มากไปกว่านี้อีก

โรงงานนี้สามารถประหยัดการใช้น้ำลงได้ 1.6 ล้านลิตร หรือคือ 15% ของน้ำที่เนสท์เล่เม็กซิโกใช้​

โรงงาน 2 แห่งในบราซิลได้กลายเป็นโรงงานที่ปลอดการใช้น้ำ และอีก 4 แห่งกำลังจะเริ่มมีการดำเนินการในประเทศบราซิลภายในปี 2018 แผนดำเนินการเดียวกันนี้จะถูกนำไปใช้ในโรงงานในแอฟริกาใต้ อินเดีย จีน และแคลิฟอร์เนีย

ทรัพยากรอันมีค่า

หลังจากผ่าน ความแห้งแล้งรัฐแคลิฟอร์เนียก็ตระหนักดีว่าน้ำเป็นทรัพยากรที่มีค่าเพียงใด ความพยายามในการลดปริมาณการใช้น้ำในอุตสาหกรรมมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนสท์เล่กำลังพยายามลดการใช้น้ำในโรงงานบรรจุขวดน้ำ 5 แห่ง และโรงงานผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงอีก 4 แห่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย และได้เริ่มดำเนินการในการปรับเปลี่ยนกระบวนการในโรงงานผลิตนมในเมือง Modesto ไปแล้ว ในการเป็นโรงงานปลอดการใช้น้ำ จะต้องไม่มีการใช้น้ำจืดจากท้องถิ่นในกระบวนการผลิตเลย

โครงการมูลค่า 70 ล้านฟรังก์สวิสนี้คาดว่าจะช่วยประหยัดน้ำได้ 286 ล้านลิตรต่อปีเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2018

โรงงานของเนสท์เล่ใน Bakersfield และ Tulare ประหยัดน้ำได้มากกว่า 98 ล้านลิตรในแต่ละปีผ่านทางมาตรการประหยัดน้ำ โครงการเหล่านี้มีศักยภาพในการลดปริมาณการใช้น้ำในแต่ละปีลงได้ถึง 12 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับระดับการใช้น้ำในปี 2014

การสกัดน้ำออกมาจากน้ำนมทำให้เราไม่จำเป็นต้องใช้น้ำบาดาล

โรงงานของเนสท์เล่ใน Bakersfield และ Tulare ประหยัดน้ำได้มากกว่า 98 ล้านลิตรในแต่ละปีผ่านทางมาตรการประหยัดน้ำ โครงการเหล่านี้มีศักยภาพในการลดปริมาณการใช้น้ำในแต่ละปีลงได้ถึง 12 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับระดับการใช้น้ำในปี 2014 คาดว่าโรงงานบรรจุขวดของ Nestlé Waters ในรัฐแคลิฟอร์เนียจะสามารถประหยัดการใช้น้ำลงได้ 208 ล้านลิตรต่อปี ซึ่งคิดเป็นการลดลงเกือบ 8% เมื่อเทียบกับปี 2014 และกำลังมีการดำเนินโครงการเพื่อนำมาตรฐานของ พันธมิตรเพื่อการพิทักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำ (Alliance for Water Stewardship) มาใช้ในแต่ละโรงงาน

3 ขั้นตอนในการประหยัดน้ำ

เนสท์เล่ใช้วิธีซึ่งประกอบไปด้วย 3 ระยะ เพื่อลดการใช้น้ำในโรงงานทั่วโลกของบริษัท

โดยในระยะแรก วิศวกรจะหาวิธีในการปรับปรุงกระบวนการผลิตที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อลดการใช้น้ำ ในระยะที่สอง วิศวกรจะหาวิธีการนำน้ำที่ผ่านการใช้งานไปแล้วกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง และในระยะที่สาม จะมีการนำนวัตกรรมในการสกัดน้ำออกมาจากวัตถุดิบและนำไปรีไซเคิล โรงงานที่ปลอดการใช้น้ำนี้เป็นตัวอย่างของนวัตกรรมในระยะที่สาม

เราลดการใช้น้ำโดยรวมลงถึง 25% ตั้งแต่ปี 2010

กลยุทธ์บันได 3 ขั้นนี้ถูกนำไปใช้ในโรงงานมากกว่า 80 แห่งทั่วโลก ซึ่งช่วยลดการใช้น้ำโดยรวมลงถึง 25% ตั้งแต่ปี 2010 ในทุกหน่วยธุรกิจของเนสท์เล่มีโครงการประหยัดน้ำในโรงงาน 516 โครงการ ส่งผลให้สามารถประหยัดน้ำลงได้ 3.7 ล้าน ลบ.ม. ในแต่ละปี ซึ่งเท่ากับสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิกถึง 1,500 สระ

สถาบันทรัพยากรโลก (World Resources Institute) ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยระดับโลก กำลังให้ความช่วยเหลือเนสท์เล่ในการประหยัดน้ำ โดยการตรวจสอบว่าระบบบริหารจัดการน้ำที่ใช้อยู่เป็นระบบที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ นวัตกรรมและการจัดการอย่างใส่ใจ ช่วยให้เนสท์เล่สามารถลดการใช้น้ำลงได้ถึงหนึ่งในสามในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และยังคงมีงานที่ต้องทำรออยู่ข้างหน้า เนสท์เล่มีการตรวจสอบการใช้ทรัพยากรของบริษัทอยู่ตลอดเวลา และมุ่งมั่นที่จะยืนหยัดเป็นผู้นำในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดการสูญเปล่าทุกประเภทเท่าที่จะสามารถทำได้