การดูแลสุขภาพไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่งในครอบครัว แม้ว่าอาจมีแค่คนใดคนหนึ่งในครอบครัวที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น คุณแม่ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือคุณพ่อที่มีปัญหาโคเลสเตอรอลในเลือดสูง แต่ควรจัดสิ่งแวดล้อมและปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ไปพร้อมกันทั้งครอบครัว นอกจากจะดีต่อคนที่เป็นโรคแล้ว ยังป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกับสมาชิกคนอื่นในครอบครัวอีกด้วย เรามาดูกันค่ะว่ามีวิธีใดบ้างที่จะช่วยให้เป็นบ้านของครอบครัวสุขภาพดี
- จัดเตรียมอาหารเช้าที่มีประโยชน์ และกินอาหารเช้าพร้อมหน้ากัน เพราะวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการปลูกฝังนิสัยรักสุขภาพให้ลูกคือการเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็นและซึมซับ ถ้าคุณแม่ไม่กินอาหารเช้า ลูกก็มักไม่กินตามแม้กระทั่งตอนโตเป็นผู้ใหญ่ หากไม่มีเวลาตระเตรียม ให้ซื้ออาหารเช้าที่มีประโยชน์ เตรียมง่าย ติดบ้านไว้ เช่น ขนมปังโฮลวีท อาหารเช้าซีเรียลที่ทำมาจากโฮลเกรน รับประทานคู่กับนม หรือเครื่องดื่มธัญพืช จะได้ไม่พลาดมื้อเช้า
- ไม่ตั้งทีวีไว้หน้าโต๊ะอาหาร และไม่อนุญาตให้คนในครอบครัวตักอาหารไปนั่งกินหน้าทีวีหรือหน้าคอมพิวเตอร์ เพราะจะทำให้เผลอกินมากกว่าที่ตั้งใจไว้โดยไม่รู้ตัว
- มีผักผลไม้ติดตู้เย็น แทนที่จะเป็นการซื้อขนมขบเคี้ยว เค้ก เบเกอรี่ติดบ้าน เพราะการมีผักผลไม้ติดตู้เย็นเสมอ จะช่วยให้คุณกินผักผลไม้มากขึ้น
- ทำอาหารกินเองบ้าง ช่วยให้คุณเลือกวัตถุดิบให้หลากหลาย ควบคุมปริมาณเครื่องปรุงรสต่างๆ ไม่ปรุงอาหารรสจัดเกินไป เลือกเครื่องหรือซอสปรุงอาหารที่หมักโดยวิธีธรรมชาติ ผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย
- มีเฉพาะน้ำเปล่า ไม่มีนํ้าอัดลม นํ้าหวาน นํ้าผลไม้สำเร็จรูป นํ้าชาเขียวรสหวาน ในตู้เย็น เพราะเมื่อไม่เห็น ก็ไม่อยากกิน
- จัดเวลาให้ทุกคนในครอบครัวเดินเล่นด้วยกันหลังอาหารเย็น หากที่บ้านเลี้ยงสุนัข ก็ชวนกันจูงสุนัขไปเดินเล่น นอกจากช่วยเพิ่มการเผาผลาญแล้ว ยังเป็นเวลาคุณภาพของครอบครัว และเป็นโอกาสดีที่จะได้พูดคุยกัน
- มีอุปกรณ์กีฬาง่ายๆ ติดบ้าน เช่น เชือกสำหรับกระโดด ห่วงฮูล่าฮูป รองเท้าผ้าใบ หรือ ดัมเบล อุปกรณ์เหล่านี้เป็นของง่ายๆ ราคาไม่แพงที่ควรมีติดบ้าน ในวันที่อากาศดี คุณสามารถคว้ารองเท้าผ้าใบออกเดินหรือวิ่งรอบบ้าน ในวันที่ตื่นเช้า คุณสามารถคว้าเชือกมากระโดดเรียกเหงื่อ เผาผลาญพลังงานในเวลาสั้นๆ หรือในเวลาที่นั่งดูละคร คุณก็สามารถลุกขึ้นมาเล่นฮูล่าฮูปหรือยกดัมเบลไปด้วย
- จำกัดการดูโทรทัศน์ เพราะยิ่งติดโทรทัศน์มากจนนอนดึก ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วนมากขึ้น คุณจึงควรมีกฎสำหรับสมาชิกภายในบ้านทุกคน ว่าไม่ควรดูโทรทัศน์เกินกว่าวันละ 2 ชั่วโมง และควรชวนกันเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม เพราะการนอนดึก จะสุ่มเสี่ยงกับการกินมื้อดึกเพิ่มขึ้น และทำให้อ้วนได้