กว่าลูกจะเคี้ยวข้าวหมดแต่ละคำใช้เวลาน๊านนนนนนาน คุณแม่คนไหนกำลังเจอปัญหานี้ เรามี 6 เทคนิคสร้างนิสัยป้อนปุ๊บเคี้ยวปั๊บมาแนะนำค่ะ
ถึงเวลากินข้าวของลูกทีไรเหมือนอยู่ในหนังสงครามเลยค่ะ เพราะไหนลูกจะห่วงเล่น เลือกกิน งอแง และหนึ่งในปัญหาที่คุณแม่แทบทุกคนต้องเจอแน่ๆ คือ ลูกอมข้าว ซึ่งมักเจอในลูกอายุ 1-3 ปี และถ้าคุณแม่ไม่รีบหาทางปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการอมข้าวของลูกตอนนี้ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว รวมไปถึงอาจเกิดปัญหาฟันน้ำนมผุได้ด้วยนะคะ
ลูกอมข้าวเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ห่วงเล่น เล่นไปกินข้าวไป ช่วงกินข้าวเป็นช่วงที่น่าเบื่อ รสชาติอาหารซ้ำๆ เดิมๆ เป็นต้น ดังนั้นถ้าคุณแม่พอจะสังเกตเห็นแล้วว่าลูกมักจะอมข้าวด้วยสาเหตุไหน ก็รับมือและแก้ไขให้ตรงจุดได้ไม่ยากค่ะ หรือจะลองทำตาม 6 เทคนิคต่อไปนี้ รับรองเลยว่าต่อไปนี้ป้อนปุ๊บเคี้ยวปั๊บแน่นอนค่ะ
6 เทคนิคจบปัญหาลูกอมข้าว
- ฝึกลูกกินอาหารให้เป็นเวลาทั้ง 3 มื้อ และคุณพ่อคุณแม่ควรกินข้าวพร้อมลูก เพื่อทำตัวเป็นตัวอย่างให้ลูกรู้ว่า เวลานี้คือเวลากินข้าว จะไม่เล่นของเล่น ไม่ดูทีวี หรือเล่นโทรศัพท์มือถือ หากตัดสิ่งเร้าเหล่านี้ไปได้ ลูกจะเรียนรู้จากสิ่งที่พ่อแม่ทำ และค่อยๆ หมดปัญหาเรื่องการอมข้าวค่ะ
- ปรับเปลี่ยนเมนูอาหารไม่ให้ซ้ำซากจำเจ และควรมีขนาดพอดีคำ ทำให้เคี้ยวง่าย ตักให้ลูกกินทีละน้อย ถ้าลูกกินหมดแล้วค่อยเติมให้ใหม่ แบบนี้จะสร้างกำลังใจให้ลูกและฝึกการกินได้ดีกกว่าตักอาหารเยอะๆ ให้ลูกค่ะ
- เปลี่ยนบรรยากาศในการกินข้าวบ้าง เช่น พากันออกไปกินข้าวในสวน มีวันปิกนิก หรือชวนเพื่อนๆ มากินข้าวด้วยกัน ลูกจะรู้สึกว่าช่วงเวลานี้ไม่น่าเบื่อ และช่วยให้เจริญอาหารมากขึ้นด้วยนะคะ
ปล่อยลูกตักกินเองบ้าง งานนี้มีเลอะแน่นอนค่ะ แต่รู้ไว้เลยว่าอะไรที่ลูกสามารถทำเองได้เหมือนที่พ่อแม่ทำ เขาจะรู้สึกภูมิใจ อยากพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ดังนั้นยอมมีมื้อเลอะๆ แต่ได้นิสัยการกินที่ดีของลูกกันนะคะ เลี่ยง ลด หรือ งด บรรดาขนมของว่างของลูกก่อนถึงอาหารมื้อหลักค่ะ เพราะถ้าลูก กินขนมมากไปจนอิ่ม พอถึงมื้อเที่ยง หรือมื้อเย็น เขาจะไม่รู้สึกหิว ไม่อยากกินข้าว และเกิดอาการอมข้าวนั่นเอง เสริมด้วยอาหารเสริมที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ ซึ่งจำเป็นต่อร่างกายลูกน้อย ให้ลูกได้เรียนรู้การกินอาหารอื่นนอกจากนม โดยอาจมีชิ้นผักผลไม้ เช่น แคร์รอต ฟักทองชิ้นเล็กๆ เป็นต้น ช่วยฝึกทักษะการบดเคี้ยวของเจ้าตัวเล็กค่ะ