เคล็ดลับเรื่องกินของเจ้าตัวเล็ก กินอะไรให้สมองดี ฉลาดสมวัย

เด็กเล็กควรได้รับธาตุเหล็กมากกว่าผู้ใหญ่ถึง 5 เท่า เพื่อพัฒนาการที่ดีทั้งร่างกายและสมอง

 

รู้ไหมคะว่า “ธาตุเหล็ก” มีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกายของเรา ธาตุเหล็กจะเข้าไปกระจายอยู่ในไขกระดูกและเม็ดเลือดแดงซึ่งเลือดจะไหลเวียนไปทั่วร่างกาย ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ โดยเฉพาะเซลล์สมองที่มีนับแสนล้านเซลล์ ลองคิดดูนะคะว่า ถ้าหากเจ้าตัวเล็กขาดธาตุเหล็ก อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโต พัฒนาการทางร่างกาย สมอง และสติปัญญาได้ ต่อให้ทานธาตุเหล็กเสริมตอนโตก็อาจจะไม่ช่วยให้ประสิทธิภาพการเรียนรู้เพิ่มขึ้นมากเท่าไรนัก ฉะนั้น รีบเสริมธาตุเหล็กให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก ๆ จะดีที่สุดเลยนะคะคุณแม่

 

ควรเสริมธาตุเหล็กให้ลูกเมื่อไหร่ดี?

ทารกแรกเกิดได้รับสารอาหารสำคัญครบถ้วนจากน้ำนมแม่อยู่แล้ว หลังจากที่กินนมแม่อย่างเดียวมานาน 6 เดือน ก็ได้เวลาเรียนรู้อาหารที่มีเนื้อนุ่มขึ้นอีกนิดแล้วนะคะ ซึ่งในวัยเริ่มอาหารเสริมช่วงแรก ๆ นั้น ลูกจะยังทานได้ไม่เยอะมาก เพราะกระเพาะอาหารยังเล็กมาก ในแต่ละมื้อจึงต้องให้ประโยชน์ครบถ้วน 5 หมู่ รวมถึงมีธาตุเหล็กสูงด้วย ซึ่งใน 1 วันนั้น เด็กอายุ 6-11 เดือน ต้องการธาตุเหล็ก 1.1 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ในขณะที่ผู้ใหญ่อย่างเรา ต้องการธาตุเหล็ก 0.2 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เรียกว่ามากกว่าผู้ใหญ่ถึง 5 เท่าเลยนะคะ

 

ธาตุเหล็กมีอยู่ในอาหารใดบ้าง?

ธาตุเหล็กมีอยู่ในอาหารที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เช่น เนื้อสัตว์ ตับ เลือด ไข่แดง และผักใบเขียว เช่น ผักตำลึง ผักโขม ถ้ากังวลว่าจะไม่เพียงพอก็มีทางเลือกอย่าง อาหารเสริมธัญพืชเสริมธาตุเหล็ก ซึ่งใน 1 ชาม ให้ธาตุเหล็กสูงถึง 40% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวันเลยนะ รู้อย่างนี้แล้วเตรียมคิดเมนูอร่อยไว้เยอะ ๆ เลยนะคะ เพราะหลังจากที่ลูกลิ้มลองอาหารหลาย ๆ แบบ เขาจะเลือกกินแต่อาหารที่ชอบ ปฎิเสธผักใบเขียว ถึงเวลานั้นต้องรับมือให้ดีเชียวค่ะ

ใส่ใจดูแลลูกน้อยไม่ให้ขาดธาตุเหล็กตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้เขาเติบโต แข็งแรง สมองดีและมีพัฒนาการสมวัยนะคะ