หลายครั้งที่นาฬิกาปลุกดังแล้วคุณไม่อยากลุก ขอนอนต่ออีกหน่อยน่า พอจะต้องตื่นเช้าหน่อย ก็ไม่มีแรงเสียอย่างนั้น อ่อนเพลียง่วงเหงาหาวนอน เอาล่ะ เรามีวิธีแก้ ลองทำตามดู
มีงานวิจัยค้นพบว่าคนที่ตื่นเช้ามีแนวโน้มจะมีสุขภาพกายและใจที่ดีกว่าคนนอนดึก และยังทำงานตามตารางเวลาได้ดีกว่าอีกด้วย การตื่นเช้ายังมีข้อดีคือ ทำให้คุณเป็นคนกระตือรือร้น สามารถทำงานได้เยอะและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้งานวิจัยยังระบุเพิ่มเติมว่าคนที่นอนตื่นเช้ามักประสบความสำเร็จมากกว่าคนตื่นสาย ดังนั้น เราอยากแนะนำว่ามาเป็นคนตื่นเช้ากันเถอะ
จัดการนาฬิกาชีวภาพของร่างกาย
คุณอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่คนคนหนึ่งจะตื่นเช้ากว่าคนอื่นๆ และก็จริงอย่างที่คุณคิด “เราสามารถแยกประเภทของคนได้จากนาฬิกาชีวภาพของร่างกาย” ดร. เจราร์ด เคเนดี้ จากมหาวิทยาลัยวิคทอเรีย ประเทศออสเตรเลียอธิบาย “เราสามารถแบ่งคนออกเป็นสองประเภทคือคนตื่นเช้าและคนตื่นสาย สำหรับคนตื่นเช้า ระยะเวลาของชีวิตจะอยู่ระหว่าง 7.30-22.30 น. ในขณะที่คนตื่นสาย ไม่สามารถใช้ชีวิตในช่วงเวลาเดียวกันกับคนตื่นเช้าได้ ต้องขยับเวลาไปตามลักษณะนิสัยเฉพาะตัว” อย่างไรก็ตาม คนตื่นสายสามารถปรับตัวเองให้เข้านอนเร็วขึ้นได้ ปัจจัยสำคัญก็คือแสงสว่างนั่นเอง ทั้งนี้ คนสมัยก่อนจะเข้านอนก็เมื่อท้องฟ้ามืด แต่คนสมัยนี้ เมื่อมีไฟฟ้า ทำให้ระบบการทำงานของร่างกายสับสน และไม่รู้ว่าได้เวลาเข้านอน ดังนั้น วิธีการปรับนาฬิกาชีวภาพของร่างกายที่ง่ายที่สุดคือ เมื่อถึงเวลาควรนอน ให้ปิดไฟเสีย ร่างกายจะได้สัมผัสได้ว่าได้เวลานอนแล้ว และเริ่มง่วง และคุณควรเปิดผ้าม่านไว้ จะได้รับแสงสว่างในยามเช้าที่ส่องเข้ามา ก็จะทำให้ร่างกายปรับเวลาการตื่นได้ดีขึ้น
หาแรงกระตุ้นจากภายใน
ทำยังไงก็ลุกจากเตียงไม่ขึ้น ลืมตาไม่ได้อย่างนั้น หรือนาฬิกาปลุกแล้วอดใจไม่ไหว ขอนอนต่ออีกหน่อย เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน วิธีแก้คือ ให้คุณเตรียมกิจกรรมที่ชอบเอาไว้แต่เช้า อาจจะเป็นเล่นเกม อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรืออะไรก็ได้ เมื่อตื่นนอน ระหว่างที่ยังขี้เกียจไม่อยากลุก ก็นอนอยู่บนเตียงแล้วทำอะไรที่ชอบไปตามถนัดเสียก่อนรอจนร่างกายตื่นเต็มที่แล้วค่อยลุกไปทำอย่างอื่น เริ่มต้นอย่างสนุก และหาแรงกระตุ้นจากภายใน จะทำให้คุณตื่นมาแล้วไม่งัวเงียขอนอนต่อ กระตุ้นความกระฉับกระเฉง
สร้างวินัยในการนอน
หากคุณเป็นคนที่มักมีอาการนอนไม่หลับแนะนำให้คุณจัดตารางเวลาให้ชัดเจนแน่นอน แม้ว่าคุณอาจจะไม่ต้องเร่งรีบไปที่ไหนในตอนเช้า ก็ขอให้สร้างระเบียบวินัยในตัวเองอย่างสม่ำเสมอ โดยเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาทุกวัน ถ้าคุณทำเป็นประจำทุกวัน ร่างกายก็จะเกิดความเคยชิน คราวนี้ คุณก็จะสามารถตื่นได้ตรงตามเวลาได้โดยไม่ต้องปลุกเลย
ตั้งนาฬิกาปลุกอย่างเป็นระบบ
ร่างกายมีระบบของตัวเอง หลังจากเริ่มนอนหลับไปได้ 1.5 ชั่วโมง ก็จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการหลับลึก เริ่มจากขั้นที่หนึ่งไปขั้นที่ห้า โดยในขั้นที่ห้า ร่างกายจะหลับลึกจนกระทั่งสามารถฝันได้ และเหตุผลที่บางครั้ง เราไม่อยากลุกจากที่นอน ก็เพราะเวลาที่เราถูกปลุกให้ตื่นนั้น เราอยู่ในกระบวนการการหลับขั้นใดขั้นหนึ่งที่ไม่เหมาะจะตื่นขึ้นมานั่นเอง ถ้าเรากำลังหลับอยู่ในช่วงขั้นที่สอง จะเกิดความหงุดหงิดอย่างมาก แต่ถ้าถูกปลุกตั้งแต่หลับแค่ขั้นที่หนึ่ง ร่างกายจะยังกระปรี้กระเปร่าได้อยู่ ไม่มีปัญหาอะไร คำแนะนำคือ ถ้าต้องตื่นเวลาไหน ให้ตั้งเวลานอนให้ครบ 8 ชั่วโมง แล้วค่อยตั้งนาฬิกาปลุก อย่าตั้งเวลาปลุกในช่วงระหว่างแต่ละขั้นของการนอนหลับ ผลจะกลายเป็นว่าคุณนอนไม่เป็นอิ่ม หงุดหงิดและไม่อยากลุกจากที่นอน
เคล็ดลับน่ารู้
มีงานวิจัยค้นพบว่าคนที่ตื่นเช้ามีแนวโน้มจะมีสุขภาพกายและใจที่ดีกว่าคนนอนดึก และยังทำงานตามตารางเวลาได้ดีกว่าอีกด้วย การตื่นเช้ายังมีข้อดีคือ ทำให้คุณเป็นคนกระตือรือร้น สามารถทำงานได้เยอะและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้งานวิจัยยังระบุเพิ่มเติมว่าคนที่นอนตื่นเช้ามักประสบความสำเร็จมากกว่าคนตื่นสาย ดังนั้น เราอยากแนะนำว่ามาเป็นคนตื่นเช้ากันเถอะ
จัดการนาฬิกาชีวภาพของร่างกาย
คุณอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่คนคนหนึ่งจะตื่นเช้ากว่าคนอื่นๆ และก็จริงอย่างที่คุณคิด “เราสามารถแยกประเภทของคนได้จากนาฬิกาชีวภาพของร่างกาย” ดร. เจราร์ด เคเนดี้ จากมหาวิทยาลัยวิคทอเรีย ประเทศออสเตรเลียอธิบาย “เราสามารถแบ่งคนออกเป็นสองประเภทคือคนตื่นเช้าและคนตื่นสาย สำหรับคนตื่นเช้า ระยะเวลาของชีวิตจะอยู่ระหว่าง 7.30-22.30 น. ในขณะที่คนตื่นสาย ไม่สามารถใช้ชีวิตในช่วงเวลาเดียวกันกับคนตื่นเช้าได้ ต้องขยับเวลาไปตามลักษณะนิสัยเฉพาะตัว” อย่างไรก็ตาม คนตื่นสายสามารถปรับตัวเองให้เข้านอนเร็วขึ้นได้ ปัจจัยสำคัญก็คือแสงสว่างนั่นเอง ทั้งนี้ คนสมัยก่อนจะเข้านอนก็เมื่อท้องฟ้ามืด แต่คนสมัยนี้ เมื่อมีไฟฟ้า ทำให้ระบบการทำงานของร่างกายสับสน และไม่รู้ว่าได้เวลาเข้านอน ดังนั้น วิธีการปรับนาฬิกาชีวภาพของร่างกายที่ง่ายที่สุดคือ เมื่อถึงเวลาควรนอน ให้ปิดไฟเสีย ร่างกายจะได้สัมผัสได้ว่าได้เวลานอนแล้ว และเริ่มง่วง และคุณควรเปิดผ้าม่านไว้ จะได้รับแสงสว่างในยามเช้าที่ส่องเข้ามา ก็จะทำให้ร่างกายปรับเวลาการตื่นได้ดีขึ้น
หาแรงกระตุ้นจากภายใน
ทำยังไงก็ลุกจากเตียงไม่ขึ้น ลืมตาไม่ได้อย่างนั้น หรือนาฬิกาปลุกแล้วอดใจไม่ไหว ขอนอนต่ออีกหน่อย เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน วิธีแก้คือ ให้คุณเตรียมกิจกรรมที่ชอบเอาไว้แต่เช้า อาจจะเป็นเล่นเกม อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรืออะไรก็ได้ เมื่อตื่นนอน ระหว่างที่ยังขี้เกียจไม่อยากลุก ก็นอนอยู่บนเตียงแล้วทำอะไรที่ชอบไปตามถนัดเสียก่อนรอจนร่างกายตื่นเต็มที่แล้วค่อยลุกไปทำอย่างอื่น เริ่มต้นอย่างสนุก และหาแรงกระตุ้นจากภายใน จะทำให้คุณตื่นมาแล้วไม่งัวเงียขอนอนต่อ กระตุ้นความกระฉับกระเฉง
สร้างวินัยในการนอน
หากคุณเป็นคนที่มักมีอาการนอนไม่หลับแนะนำให้คุณจัดตารางเวลาให้ชัดเจนแน่นอน แม้ว่าคุณอาจจะไม่ต้องเร่งรีบไปที่ไหนในตอนเช้า ก็ขอให้สร้างระเบียบวินัยในตัวเองอย่างสม่ำเสมอ โดยเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาทุกวัน ถ้าคุณทำเป็นประจำทุกวัน ร่างกายก็จะเกิดความเคยชิน คราวนี้ คุณก็จะสามารถตื่นได้ตรงตามเวลาได้โดยไม่ต้องปลุกเลย
ตั้งนาฬิกาปลุกอย่างเป็นระบบ
ร่างกายมีระบบของตัวเอง หลังจากเริ่มนอนหลับไปได้ 1.5 ชั่วโมง ก็จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการหลับลึก เริ่มจากขั้นที่หนึ่งไปขั้นที่ห้า โดยในขั้นที่ห้า ร่างกายจะหลับลึกจนกระทั่งสามารถฝันได้ และเหตุผลที่บางครั้ง เราไม่อยากลุกจากที่นอน ก็เพราะเวลาที่เราถูกปลุกให้ตื่นนั้น เราอยู่ในกระบวนการการหลับขั้นใดขั้นหนึ่งที่ไม่เหมาะจะตื่นขึ้นมานั่นเอง ถ้าเรากำลังหลับอยู่ในช่วงขั้นที่สอง จะเกิดความหงุดหงิดอย่างมาก แต่ถ้าถูกปลุกตั้งแต่หลับแค่ขั้นที่หนึ่ง ร่างกายจะยังกระปรี้กระเปร่าได้อยู่ ไม่มีปัญหาอะไร คำแนะนำคือ ถ้าต้องตื่นเวลาไหน ให้ตั้งเวลานอนให้ครบ 8 ชั่วโมง แล้วค่อยตั้งนาฬิกาปลุก อย่าตั้งเวลาปลุกในช่วงระหว่างแต่ละขั้นของการนอนหลับ ผลจะกลายเป็นว่าคุณนอนไม่เป็นอิ่ม หงุดหงิดและไม่อยากลุกจากที่นอน
เคล็ดลับน่ารู้
- ดื่มนมร้อนๆ หรือเครื่องดื่มธัญญาหารอุ่นๆ หรือจะเป็นชาคาโมมายล์ก่อนนอนสักถ้วยจะช่วยให้หลับสบาย
- ดื่มน้ำเปล่าสะอาดหลังตื่นนอนทุกเช้า จะช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า สดใส และกระตุ้นการขับถ่ายในตอนเช้าได้อีกด้วย