การหัวเราะเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เชื่อมั้ยคะว่าตอนเป็นเด็กเราหัวเราะได้มากถึง 300 ครั้งต่อวัน และเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เราหัวเราะเพียง 15 ครั้งต่อวัน พร้อมๆ กับความเครียดที่เพิ่มมากขึ้น
มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตเพียงชนิดเดียวบนโลกที่หัวเราะเป็น และการหัวเราะนั้นมีพลังวิเศษมากมาย ที่ประเทศเดนมาร์ก ยอมรับให้การหัวเราะบำบัดเป็นยารักษาโรค ตามวิถีแพทย์ทางเลือก การหัวเราะยังช่วยให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ ลดความเครียด เพิ่มภูมิต้านทาน การหัวเราะเป็นวิธีคลายเครียดและดูแลสุขภาพที่สุดแสนง่าย เพราะเมื่อเราหัวเราะ ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุขออกมา ไม่ว่าจะเป็นเอ็นดอร์ฟิน เซโรโทนิน หรือโดปามีน เป็นกลไกการฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว ใช้เพียงอย่างเดียวคือ “เสียงหัวเราะ” ของเรานั่นเอง
- หัวเราะแบบซานตาคลอส (ท้องหัวเราะ)< หายใจเข้าลึกๆ กักลมไว้สักครู่ แล้วเปล่งเสียงดังๆ ออกมาจากท้องว่า “โอ โอะๆๆๆๆๆ...” ไปเรื่อยๆ จนกว่าลมจะหมด ขณะเปล่งเสียงให้ท้องขยับตามไปด้วย จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ผู้ที่มีอาการท้องผูกหากทำท่านี้เป็นประจำ สามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้อีกด้วย
- หัวเราะแบบเจ้าพ่อ (อกหัวเราะ) หายใจเข้าลึกๆ กักลมไว้สักครู่ แล้วเปล่งเสียง “อา อะๆๆๆๆๆ...” ไปเรื่อยๆ ขณะเปล่งเสียง กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก หัวใจ ปอด และไหล่จะขยับ ทำให้การสูบฉีดและการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็งเต้านม เพราะการขยับช่วงอก จะทำให้หน้าอกหรือเต้านมได้เคลื่อนไหว ไม่เป็นพังผืด
- หัวเราะแบบหมาป่า (คอหัวเราะ) หายใจเข้าลึกๆ กักลมไว้สักครู่ แล้วเปล่งเสียง “อู อุๆๆๆๆๆ...” ท่านี้จะช่วยกระตุ้นให้ลำคอสั่น จึงแก้อาการเจ็บคอและปวดคอได้
- หัวเราะแบบเด็กน้อย (ใบหน้าหัวเราะ) หายใจเข้าลึกๆ กักลมไว้สักครู่ แล้วเปล่งเสียง “เอ เอะๆๆๆๆๆ....” ขณะพูดคำว่า “เอ” ใบหน้าจะมีลักษณะเหมือนคนฉีกยิ้ม ท่านี้จึงช่วยให้อารมณ์ดี ลดอาการตึงเครียด ปวดศีรษะ
ได้รู้ถึงประโยชน์ของการหัวเราะกันแล้ว พยายามหัวเราะให้มากขึ้นนะคะ นอกจากจะได้ความสุข รอยยิ้ม และมิตรภาพแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคและช่วยให้มีสุขภาพจิตดีอีกด้วย และหลังจากหัวเราะแล้ว อย่าลืมเติมน้ำให้ร่างกาย ด้วยน้ำดื่มที่สะอาด หรือชามะนาวสักแก้ว จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น และรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น