รู้หรือไม่ว่าในโลกออนไลน์สาวๆ เขาอัพเดทกันเรื่องข้าวโอ๊ตช่วยลดความอ้วน ทำเอาแทบจะไม่มีข้าวโอ๊ตขายบนชั้นในซูเปอร์มาร์เก็ตกันเลยทีเดียว แต่ก่อนที่เราจะรับประทานยข้าวโอ๊ตเป็นอาหารมื้อเช้าอย่างที่สาวๆ แนะนำ ลองมาเช็คข้อมูลกันก่อนว่า ข้าวโอ๊ตนั้นมีดีอย่างไร และช่วยลดความอ้วนได้จริงๆ หรือไม่
ข้าวโอ๊ต (Oat) เป็นอาหารที่ชาวยุโรปนิยมรับประทานเป็นอาหารเช้ากันมานานแล้ว เพราะมีคุณค่าทางอาหารมากมาย โดยเฉพาะแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต ส่วนรำข้าวโอ๊ต เป็นเส้นใยที่ได้จากการขัดสีข้าวโอ๊ตให้ขาว หรือเส้นใยบางๆ ที่ห่อหุ้มเมล็ดข้าวโอ๊ต ซึ่งรำข้าวโอ๊ตนี้ให้เส้นใยอาหารสูงมาก ทั้งเส้นใยชนิดที่ละลายน้ำได้ ซึ่งเส้นใยประเภทนี้ เวลาที่รับประทานเข้าไปแล้วจะละลายเร็วและเกาะติดกับสารอาหารโดยเฉพาะ ไขมัน ทำให้ไขมันและสารอาหารอื่นๆ ไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและขับถ่ายออกมา จึงช่วยลดไขมันและโคเลสเตอรอลในเลือดได้
ส่วนเส้นใยอีกชนิด คือเส้นใยชนิดที่ไม่ละลายน้ำ เส้นใยชนิดนี้มีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำ จะดูดซับน้ำใว้กับตัวเองทำให้พองตัว เมื่อรับประทานเข้าไปจึงจะทำให้ปริมาตรของสารที่ต้องการขับถ่ายเคลื่อนตัวผ่านลำไส้ได้เร็วขึ้น จึงช่วยป้องกันและรักษาท้องผูกได้
การรับประทานข้าวโอ๊ตจึงมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะรำข้าวโอ๊ต ที่เป็นอาหารสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำตาลและไขมันในเลือด อย่างคนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ และผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก แต่ก็ต้องระวังในการรับประทานด้วย เพราะอาจจะทำให้สารอาหารและวิตามินที่จำเป็นบางอย่างในอาหารถูกขับถ่ายออกไปด้วย
ทีนี้เรามาชวนคนรักหรือคนรอบข้างที่ต้องการตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนักให้มาลองรับประทานข้าว โอ๊ตกันดีกว่า แต่ต้องรับประทานด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องว่า เราจะรับประทานข้าวโอ๊ตเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องรับประทานอาหารอื่นด้วยเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน โดยมื้อที่เหมาะที่สุดคือมื้อเช้า หรือรับประทานเป็นอาหารว่างแบบเบาๆ ด้วยการเติมน้ำร้อนในข้าวโอ๊ต หรือนำมาต้ม แล้วเติมผลไม้กับเมล็ดพืชเช่นลูกเกด เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ข้าวโอ๊ตจะช่วยให้อิ่มนานขึ้น เมื่อถึงมื้อกลางวันความอยากอาหารก็จะน้อยลง ควรเน้นรับประทานอาหารที่ให้โปรตีน ผักและผลไม้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน ส่วนมื้อเย็นเลือกอาหารที่เบาท้องที่สุด แต่ก็ต้องมีประโยชน์ด้วย เช่นสลัดผัก ผลไม้สด เป็นต้น
ที่สำคัญก็คือ อย่าลืมออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ สุดท้าย…มีแถมอีกหนึ่งเคล็ดลับว่า การรับประทานข้าวโอ๊ตก่อนออกกำลังกายสัก 3 ชั่วโมง จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันเร็วขึ้น รวมถึงยังทำให้มีแรงและออกกำลังได้มากขึ้นด้วย
ข้าวโอ๊ต (Oat) เป็นอาหารที่ชาวยุโรปนิยมรับประทานเป็นอาหารเช้ากันมานานแล้ว เพราะมีคุณค่าทางอาหารมากมาย โดยเฉพาะแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต ส่วนรำข้าวโอ๊ต เป็นเส้นใยที่ได้จากการขัดสีข้าวโอ๊ตให้ขาว หรือเส้นใยบางๆ ที่ห่อหุ้มเมล็ดข้าวโอ๊ต ซึ่งรำข้าวโอ๊ตนี้ให้เส้นใยอาหารสูงมาก ทั้งเส้นใยชนิดที่ละลายน้ำได้ ซึ่งเส้นใยประเภทนี้ เวลาที่รับประทานเข้าไปแล้วจะละลายเร็วและเกาะติดกับสารอาหารโดยเฉพาะ ไขมัน ทำให้ไขมันและสารอาหารอื่นๆ ไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและขับถ่ายออกมา จึงช่วยลดไขมันและโคเลสเตอรอลในเลือดได้
ส่วนเส้นใยอีกชนิด คือเส้นใยชนิดที่ไม่ละลายน้ำ เส้นใยชนิดนี้มีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำ จะดูดซับน้ำใว้กับตัวเองทำให้พองตัว เมื่อรับประทานเข้าไปจึงจะทำให้ปริมาตรของสารที่ต้องการขับถ่ายเคลื่อนตัวผ่านลำไส้ได้เร็วขึ้น จึงช่วยป้องกันและรักษาท้องผูกได้
การรับประทานข้าวโอ๊ตจึงมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะรำข้าวโอ๊ต ที่เป็นอาหารสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำตาลและไขมันในเลือด อย่างคนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ และผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก แต่ก็ต้องระวังในการรับประทานด้วย เพราะอาจจะทำให้สารอาหารและวิตามินที่จำเป็นบางอย่างในอาหารถูกขับถ่ายออกไปด้วย
ทีนี้เรามาชวนคนรักหรือคนรอบข้างที่ต้องการตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนักให้มาลองรับประทานข้าว โอ๊ตกันดีกว่า แต่ต้องรับประทานด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องว่า เราจะรับประทานข้าวโอ๊ตเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องรับประทานอาหารอื่นด้วยเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน โดยมื้อที่เหมาะที่สุดคือมื้อเช้า หรือรับประทานเป็นอาหารว่างแบบเบาๆ ด้วยการเติมน้ำร้อนในข้าวโอ๊ต หรือนำมาต้ม แล้วเติมผลไม้กับเมล็ดพืชเช่นลูกเกด เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ข้าวโอ๊ตจะช่วยให้อิ่มนานขึ้น เมื่อถึงมื้อกลางวันความอยากอาหารก็จะน้อยลง ควรเน้นรับประทานอาหารที่ให้โปรตีน ผักและผลไม้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน ส่วนมื้อเย็นเลือกอาหารที่เบาท้องที่สุด แต่ก็ต้องมีประโยชน์ด้วย เช่นสลัดผัก ผลไม้สด เป็นต้น
ที่สำคัญก็คือ อย่าลืมออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ สุดท้าย…มีแถมอีกหนึ่งเคล็ดลับว่า การรับประทานข้าวโอ๊ตก่อนออกกำลังกายสัก 3 ชั่วโมง จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันเร็วขึ้น รวมถึงยังทำให้มีแรงและออกกำลังได้มากขึ้นด้วย