คุณกี๋-วิสทา กุญชร ณ อยุธยา ... จากอดีตเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก้าวสู่วงการจอแก้วและนางแบบงานโฆษณามากมาย จนเราคุ้นหน้าคุ้นตาเธอดี วันนี้เธอเป็นภรรยาผู้น่ารักของช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา คุณกี๋ยอมรับว่าชีวิตเธอเปลี่ยนไปตั้งแต่เธอมีน้องเอรา ลูกสาวคนแรกที่อายุเพิ่งครบ 1 ขวบเมื่อไม่นานมานี้เอง
“กี๋ต้องปรับตัวเยอะมากและเตรียมใจแล้วตั้งแต่ตั้งครรภ์ ในช่วงแรกๆ หลังคลอดน้องเอรา ชีวิตเราเปลี่ยนไปหมด กี๋ให้เวลากับลูก 100% จะอาบน้ำ กินข้าว ก็ต้องทำอย่างเร็วที่สุด รีบออกมาดูลูก แรกๆ หนื่อยและเครียดมากค่ะ ตอนนั้นลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกอย่างเดียวเลย ไม่ได้ช้อปปิ้ง ไม่ได้นัดเจอเพื่อนๆ ที่สำคัญเคยเป็นคนชอบเข้าสปาและชอบไปนวดมาก แต่กิจกรรมทั้งหมดต้องเลิกไป มาให้เวลากับลูกเท่านั้น ไม่มีเวลาให้กับตัวเองเลย แต่ผ่านไปสักพักเราก็คิดได้ว่าคงต้องปรับตัวใหม่ ควรมีเวลาให้ตัวเองบ้าง จึงเริ่มต้นด้วยการไปช้อปปิ้ง ไปเที่ยวบ้าง ไปทำผม ครั้งละ 1 ชั่วโมงก็ยังดี ได้ผ่อนคลายก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น”
บทบาทคุณแม่มือใหม่และสาวทำงานในเวลาเดียวกันนับว่าหนักเอาการ ดังนั้นเวลาส่วนตัวของคุณกี๋ยามว่างเว้นจากการทำงานและดูแลลูก คือการได้พักผ่อนและหาทางผ่อนคลายตัวเองอย่างเต็มที่
“สำหรับกี๋แล้วร่างกายจะแข็งแรงต้องพักผ่อนให้พอค่ะ เป็นคนที่ต้องนอนให้พอ ถ้านอนไม่พอจะคิดอะไรไม่ออก และจะไม่สบาย ดังนั้นในวันหยุดบางครั้งที่มีญาติช่วยดูแลลูก กี๋ก็เลือกที่จะนอนกลางวันค่ะ เพื่อเติมเต็มวันคืนที่เรานอนไม่พอมาตลอดสัปดาห์ ส่วนกิจกรรมที่ชอบมากๆ ที่เป็นเวลาส่วนตัวของกี๋คือการได้ “นวด” ค่ะ (หัวเราะ) เริ่มนวดมาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาแล้ว ต่อมาก็จะไปสปากับสามีเป็นประจำ พอนวดๆ ไปเริ่มรู้สึกว่านวดน้ำมันเบาไปสำหรับเราแล้ว ก็เริ่มหันมานวดแผนไทยที่หนักขึ้น เดี๋ยวนี้เป็นคนชอบให้นวดค่อนข้างหนักค่ะ แม้กี๋จะตัวเล็กก็ตามแต่ก็ชอบมากค่ะ เพราะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยหลังจากการอุ้มลูกได้ดีมาก และรู้สึกผ่อนคลายมากด้วย เดี๋ยวนี้ไม่ต้องออกไปนวดที่อื่นแล้วค่ะ เพราะว่าจ้างคนมานวดที่บ้านเป็นประจำเลย (หัวเราะ) เราก็จะเตรียมอุปกรณ์การนวดต่างๆ ไว้ที่บ้านพร้อมเลย ครั้งหนึ่งก็นวดประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงครึ่ง ก็จะให้เขานวดสลับกันกับสามีค่ะ ระหว่างนวดกี๋จะรู้สึกสงบ สบาย ได้ผ่อนคลายจริงๆ เหมือนได้ฟื้นคืนความสดชื่นจากที่เราล้ามาตลอด ให้กลับมาอีกครั้ง”
และนี่เองที่ดูเหมือนว่าเธอคนนี้ กี๋ – วิสทา เป็นตัวอย่างของผู้ที่สามารถบริหารเวลาของตนเองและคนที่รักได้ครบสูตรอย่างลงตัวทีเดียว
“กี๋ต้องปรับตัวเยอะมากและเตรียมใจแล้วตั้งแต่ตั้งครรภ์ ในช่วงแรกๆ หลังคลอดน้องเอรา ชีวิตเราเปลี่ยนไปหมด กี๋ให้เวลากับลูก 100% จะอาบน้ำ กินข้าว ก็ต้องทำอย่างเร็วที่สุด รีบออกมาดูลูก แรกๆ หนื่อยและเครียดมากค่ะ ตอนนั้นลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกอย่างเดียวเลย ไม่ได้ช้อปปิ้ง ไม่ได้นัดเจอเพื่อนๆ ที่สำคัญเคยเป็นคนชอบเข้าสปาและชอบไปนวดมาก แต่กิจกรรมทั้งหมดต้องเลิกไป มาให้เวลากับลูกเท่านั้น ไม่มีเวลาให้กับตัวเองเลย แต่ผ่านไปสักพักเราก็คิดได้ว่าคงต้องปรับตัวใหม่ ควรมีเวลาให้ตัวเองบ้าง จึงเริ่มต้นด้วยการไปช้อปปิ้ง ไปเที่ยวบ้าง ไปทำผม ครั้งละ 1 ชั่วโมงก็ยังดี ได้ผ่อนคลายก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น”
บทบาทคุณแม่มือใหม่และสาวทำงานในเวลาเดียวกันนับว่าหนักเอาการ ดังนั้นเวลาส่วนตัวของคุณกี๋ยามว่างเว้นจากการทำงานและดูแลลูก คือการได้พักผ่อนและหาทางผ่อนคลายตัวเองอย่างเต็มที่
“สำหรับกี๋แล้วร่างกายจะแข็งแรงต้องพักผ่อนให้พอค่ะ เป็นคนที่ต้องนอนให้พอ ถ้านอนไม่พอจะคิดอะไรไม่ออก และจะไม่สบาย ดังนั้นในวันหยุดบางครั้งที่มีญาติช่วยดูแลลูก กี๋ก็เลือกที่จะนอนกลางวันค่ะ เพื่อเติมเต็มวันคืนที่เรานอนไม่พอมาตลอดสัปดาห์ ส่วนกิจกรรมที่ชอบมากๆ ที่เป็นเวลาส่วนตัวของกี๋คือการได้ “นวด” ค่ะ (หัวเราะ) เริ่มนวดมาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาแล้ว ต่อมาก็จะไปสปากับสามีเป็นประจำ พอนวดๆ ไปเริ่มรู้สึกว่านวดน้ำมันเบาไปสำหรับเราแล้ว ก็เริ่มหันมานวดแผนไทยที่หนักขึ้น เดี๋ยวนี้เป็นคนชอบให้นวดค่อนข้างหนักค่ะ แม้กี๋จะตัวเล็กก็ตามแต่ก็ชอบมากค่ะ เพราะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยหลังจากการอุ้มลูกได้ดีมาก และรู้สึกผ่อนคลายมากด้วย เดี๋ยวนี้ไม่ต้องออกไปนวดที่อื่นแล้วค่ะ เพราะว่าจ้างคนมานวดที่บ้านเป็นประจำเลย (หัวเราะ) เราก็จะเตรียมอุปกรณ์การนวดต่างๆ ไว้ที่บ้านพร้อมเลย ครั้งหนึ่งก็นวดประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงครึ่ง ก็จะให้เขานวดสลับกันกับสามีค่ะ ระหว่างนวดกี๋จะรู้สึกสงบ สบาย ได้ผ่อนคลายจริงๆ เหมือนได้ฟื้นคืนความสดชื่นจากที่เราล้ามาตลอด ให้กลับมาอีกครั้ง”
และนี่เองที่ดูเหมือนว่าเธอคนนี้ กี๋ – วิสทา เป็นตัวอย่างของผู้ที่สามารถบริหารเวลาของตนเองและคนที่รักได้ครบสูตรอย่างลงตัวทีเดียว