ธรรมชาติของเด็กเป็นวัยที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง แต่ด้วยการเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เด็กมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้อง คือ นั่งอยู่หน้าจอทีวีหรือจอคอมพิวเตอร์ นั่งเรียนพิเศษทั้งวัน และขาดการออกกำลังกายหรือมีการเคลื่อนไหวร่างกายไม่มากพอ ซึ่งการออกกำลังกายในเด็กนั้น นอกจากจะช่วยให้สุขภาพดี ไม่อ้วน และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับเด็กแล้ว ยังช่วยให้สมองดีอีกด้วย
มีงานวิจัย 14 ชิ้นได้ทำการวิจัยกับเด็กอายุ 6-18 ปี จำนวน 50-12,000 คน พบว่าเด็กที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมีผลการเรียนดีขึ้น
ทำไมการออกกำลังกายช่วยให้สมองดี
- มีการค้นพบว่าทุกครั้งที่กล้ามเนื้อเกร็งตัวทำงานจะมีการปล่อยสารกระตุ้นสมองในกระแสเลือดเข้าสู่สมองไปกระตุ้นให้สร้างสารส่งผ่านกระแสไฟฟ้าในระบบประสาทเพิ่มขึ้น และเพิ่มการสร้างสารกระตุ้นสมองที่เรียกว่า BDNF (brain-derived neurotrophic factor) ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นให้เซลล์สมองแตกกิ่งก้านสาขาเสริมสร้างเครือข่ายมากขึ้น เมื่อเราออกกำลังกายสม่ำเสมอจะทำให้สาร BDNF มีมากขึ้น ทำให้สมองทำงานดีขึ้น การเรียนดีขึ้น ในทางตรงข้ามสมองที่ขาดสาร BDNF จะเฉื่อยชาต่อการรับข้อมูลใหม่
- ช่วยให้เลือดและออกซิเจนมีการไหลเวียนไปสู่สมอง จึงทำให้มีสมาธิจดจ่อในการเรียนและมีความจำดีขึ้น และยังทำให้มีการตื่นตัวในการเรียนมากขึ้น
- ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกไปจากร่างกาย ทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง
- ช่วยให้ปรับตัวเข้ากับคนอื่นดีขึ้น มีทักษะทางสังคมมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการเรียน
- ช่วยให้เกิดความมั่นใจในตนเอง และมีอารมณ์แจ่มใส
- ช่วยลดความเครียดและความล้าของสมองจากการเรียนที่สมองต้องทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน
วิธีส่งเสริมการออกกำลังกายสำหรับเด็ก
- ควรให้เด็กลดหรือหลีกเลี่ยงการนั่งนอนที่ไม่จำเป็น เช่น นั่งดูทีวี นั่งเล่นเกมคอมพิวเตอร์
- ส่งเสริมให้เด็กทำกิจกรรมทางกายทุกวัน เช่น ช่วยทำงานบ้าน เดินขึ้นบันได วิ่งเล่น ถีบจักรยาน เดินไปโรงเรียน
- ส่งเสริมให้เด็กออกกำลังกายแบบแอโรบิก สัปดาห์ละ 3-5 วัน วันละอย่างน้อย 20 นาที เช่น เล่นกีฬา วิ่ง กระโดดเชือก ว่ายน้ำ
การออกกำลังกายช่วยให้ลูกเรียนดีได้แบบนี้ คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมชวนลูกเคลื่อนไหวออกกำลังกายเป็นประจำนะคะ และอย่าลืมเสริมด้วยเครื่องดื่มรสช็อกโกแลตมอลต์ที่มีวิตามินบีรวม ช่วยให้พร้อมเต็มที่ทั้งการออกกำลังกายและการเรียน