1. เตรียมน้ำซุปกระดูกหมู เริ่มจากล้างกระดูกหมูให้สะอาด ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง รอจนกระทะร้อนใส่กระดูกหมูลงผัดกับซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ให้ได้กลิ่นหอม เติมน้ำเล็กน้อยผัดแบบขลุกขลิก แล้วปิดไฟ ไม่ต้องรอให้กระดูกสุก
2. เทกระดูกหมูเปลี่ยนลงใส่หม้อต้มซุป แล้วเติมน้ำ 3 ลิตร ตั้งไฟกลาง พอน้ำเริ่มร้อนให้ใส่หัวไชเท้าและแครอทลงไป ปรุงรสด้วยซอสปรุงอาหารแม็กกี้ ต้มด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อนประมาณ 2 ชั่วโมง
3. หมักเนื้อสัตว์ในเมนูนี้เสนอเป็น 2 สูตร คือ สูตรหมักไข่สำหรับเนื้อหรือหมู โดยหมักเนื้อสไลด์ด้วย ส่วนผสมไข่ กระเทียมสับ และซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ 1 ชั่วโมง
และอีกสูตรเป็นสูตรหมักงาสำหรับเนื้อไก่ โดยหมักเนื้อไก่ด้วย ส่วนผสมซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ น้ำมันงาและงาคั่ว หมักไว้ 30 นาที
นอกจากนี้ น้ำมันงาใช้คลุกกับกุ้ง ก็จะช่วยให้กุ้งรสชาติดี กลิ่นหอมกลมกล่อม
4. เตรียมน้ำจิ้ม โดยเลือกสูตรใดสูตรหนึ่งจาก 2 สูตร คือสูตรแซ่บ ประกอบด้วย ซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ ซอสปรุงอาหารแม็กกี้ น้ำส้มสายชู น้ำตาล น้ำมันงา และน้ำเปล่าตามสูตร ผสมให้เข้ากันเตรียมไว้ ใช้ผสมกับ กระเทียมสับ พริกขี้หนูแดง หัวไชเท้าบด ต้นหอมซอยและมะนาว
อีกหนึ่งสูตร เป็นน้ำจิ้มสูตรงาขาวสำหรับผู้ไม่รับประทานเผ็ด ประกอบด้วย มายองเนสสูตรไม่หวาน ซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ งาขาวคั่วบด น้ำมันงา น้ำส้มสายชู และน้ำตาล ตามสูตร
5. เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมก็เตรียมฉลองกันได้เลย เป็นเมนูความสุขทานกันพร้อมหน้าพร้อมตาเหมาะกับช่วงเทศกาลอย่างยิ่ง
.jpg)
Cooking Tip ( เกร็ดน่ารู้ในการทำอาหารเพื่อสุขภาพ)
ห้ามคนและไม่ต้องปิดฝาหม้อเวลาต้มซุปเพราะจะทำให้ซุปขุ่น
Health Tip (เกร็ดน่ารู้ในการดูแลสุขภาพ)
ในหนึ่งวันเราควรรับประทานผักประมาณ 400 กรัม หรือ 4 ทัพพี ซึ่งผักหลากสีต่างก็มีประโยชน์ต่อร่างกายและให้คุณค่าที่แตกต่างกัน ยิ่งถ้าได้ทานครบทั้ง 5 สี ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายสมบูรณ์และพร้อมในทุกด้านมากขึ้น ทานเป็นประจำย่อมทำให้มีอาการเจ็บป่วยน้อยลง หรือถ้าเจ็บป่วยก็สามารถฟื้นฟูได้รวดเร็ว ทั้งยังช่วยไม่ให้เป็นโรคยอดฮิตอย่างมะเร็ง เพราะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงมีไฟเบอร์หรือใยอาหารที่ช่วยดักจับไขมัน น้ำตาล และสารพิษที่ติดไปกับอาหารที่กินเข้าไป และจะถ่ายออกมาในตอนเช้าอย่างสะดวกสบาย หากไม่ทานผักจะทำให้เกิดอาการท้องผูก เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร และอาจเป็นโรคมะเร็งหรือโรคหัวใจได้ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องหันมาทานผักให้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์เพียงพอ แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรทานผักเพียงแค่ชนิดเดียว เพราะหากสามารถทานผักให้ได้ครบทั้ง 5 สี ไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีเหลืองหรือส้ม สีเขียว สีม่วง และสีขาว ย่อมมีประโยชน์มากขึ้นอีกเท่าตัว เพราะแต่ละสีให้คุณประโยชน์ที่แตกต่างกันไป