อาหารก็เหมือนเรื่องอื่นๆ ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคม มีความนิยมเป็นแฟชั่น พอเวลาผ่านไปก็ตกยุค มีความนิยมใหม่ๆ เข้ามาแทนที่ หรือบางครั้งของเก่าก็หวนกลับมานิยมกันอีก
คุณผู้อ่านทุกคนคงเคยได้ชิมอาหารที่เสิร์ฟในแก้วขนาดต่างๆ ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว ของหวาน หรือของกินเล่น ซึ่งเรียกกันว่า “Verrines” (แวร์รีน) แปลว่า แก้วหรือ Glass ในภาษาอังกฤษ
ความนิยมนำอาหารใส่แก้วเป็นชั้นๆ แทนการใส่ในจานชามเกิดขึ้นที่ฝรั่งเศสในราวปี ค.ศ. 1970 พร้อมๆ กับการทำอาหารที่เรียกว่า “Nouvelle Cuisine” (นูแวลควีซีน) หรืออาหารที่แตกต่างไปจากอาหารคลาสสิกหรือ Haute Cuisine
อาหารสไตล์นี้เป็นการทำอาหารแบบใหม่ที่มีส่วนผสมซึ่งเบาขึ้น ใช้วัตถุดิบใหม่ๆ ที่มีแพร่หลายทั่วไปในตอนนั้น ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก และเน้นการจัดจานที่สวยงาม ความนิยมนูแวลควีซีน (Nouvelle Cuisine) และแวร์รีน (Verrines) จึงแพร่หลายไปทั่วโลก เป็นการกินอาหารแบบใหม่ที่ผู้บริโภคเห็นว่าดีต่อสุขภาพ เพราะกินได้ครั้งละไม่มาก ดูสวยงามน่ากิน กินสะดวก และไม่ยุ่งยากที่จะต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ใดๆ
การจัดอาหารใส่แก้วหรือแวร์รีนจึงกลายเป็นการเสนออาหารอเนกประสงค์ที่ไม่มีหลักเกณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น ประดิษฐ์และสร้างสรรค์ได้ตามจินตนาการของแต่ละคน จะใส่อะไรหรือใส่อะไรก่อนอะไรหลังก็แล้วแต่ความชอบและเห็นสวยงาม เช่น ซอสที่อยู่บนอาหารอาจจะใส่อยู่ระหว่างชั้นเพื่อให้มีสีสลับกันและดูน่ากิน อาจนำขนมปัง เบคอนทอด มาวางตกแต่งบนปากแก้ว ทั้งแก้วก็มีรูปทรงให้เลือกได้หลากหลาย
อาหารสไตล์นี้เหมาะกับวิถีชีวิตของคนในปัจจุบันที่ต้องไปทำงาน มีเวลาน้อย ทำล่วงหน้าเตรียมไว้ได้ เสิร์ฟง่ายและกินง่าย โดยเฉพาะถ้าจะจัดงานที่บ้านหรืองานเลี้ยงที่มีคนจำนวนมาก บ้านเราก็นิยมกัน โดยมีการดัดแปลงนำอาหารไทยมาใส่แก้วให้ดูแปลกตา คงเป็นเพราะกินง่าย สะดวก ในงานเลี้ยงบางแห่งจึงจัดใส่แก้วเล็กๆ ที่ดูชวนชิมมากกว่า
ปัจจุบันความนิยมนูแวลควีซีนลดน้อยลง มีการหวนกลับไปหาอาหารคลาสสิก ความนิยมแวร์รีน (Verrines) ก็เปลี่ยนไปด้วย จากอาหารใส่แก้วก็กลายเป็นอาหารใส่ถ้วยพลาสติก ขายตามร้านอาหารจานด่วน ร้านสะดวกซื้อ หรือตามงานที่มีคนมากๆ
แต่ว่าไปแล้วในยุคที่ทุกคนต้องไปทำงาน มีเวลาน้อย ถ้าจะจัดงานที่บ้าน แวร์รีนก็ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอยู่ เพราะทำง่าย กินง่าย เตรียมง่าย และไม่ต้องกินมากเกินไป ทั้งยังชวนให้น่าลองน่าทำอยู่เหมือนกัน
คุณผู้อ่านทุกคนคงเคยได้ชิมอาหารที่เสิร์ฟในแก้วขนาดต่างๆ ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว ของหวาน หรือของกินเล่น ซึ่งเรียกกันว่า “Verrines” (แวร์รีน) แปลว่า แก้วหรือ Glass ในภาษาอังกฤษ
ความนิยมนำอาหารใส่แก้วเป็นชั้นๆ แทนการใส่ในจานชามเกิดขึ้นที่ฝรั่งเศสในราวปี ค.ศ. 1970 พร้อมๆ กับการทำอาหารที่เรียกว่า “Nouvelle Cuisine” (นูแวลควีซีน) หรืออาหารที่แตกต่างไปจากอาหารคลาสสิกหรือ Haute Cuisine
อาหารสไตล์นี้เป็นการทำอาหารแบบใหม่ที่มีส่วนผสมซึ่งเบาขึ้น ใช้วัตถุดิบใหม่ๆ ที่มีแพร่หลายทั่วไปในตอนนั้น ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก และเน้นการจัดจานที่สวยงาม ความนิยมนูแวลควีซีน (Nouvelle Cuisine) และแวร์รีน (Verrines) จึงแพร่หลายไปทั่วโลก เป็นการกินอาหารแบบใหม่ที่ผู้บริโภคเห็นว่าดีต่อสุขภาพ เพราะกินได้ครั้งละไม่มาก ดูสวยงามน่ากิน กินสะดวก และไม่ยุ่งยากที่จะต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ใดๆ
การจัดอาหารใส่แก้วหรือแวร์รีนจึงกลายเป็นการเสนออาหารอเนกประสงค์ที่ไม่มีหลักเกณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น ประดิษฐ์และสร้างสรรค์ได้ตามจินตนาการของแต่ละคน จะใส่อะไรหรือใส่อะไรก่อนอะไรหลังก็แล้วแต่ความชอบและเห็นสวยงาม เช่น ซอสที่อยู่บนอาหารอาจจะใส่อยู่ระหว่างชั้นเพื่อให้มีสีสลับกันและดูน่ากิน อาจนำขนมปัง เบคอนทอด มาวางตกแต่งบนปากแก้ว ทั้งแก้วก็มีรูปทรงให้เลือกได้หลากหลาย
อาหารสไตล์นี้เหมาะกับวิถีชีวิตของคนในปัจจุบันที่ต้องไปทำงาน มีเวลาน้อย ทำล่วงหน้าเตรียมไว้ได้ เสิร์ฟง่ายและกินง่าย โดยเฉพาะถ้าจะจัดงานที่บ้านหรืองานเลี้ยงที่มีคนจำนวนมาก บ้านเราก็นิยมกัน โดยมีการดัดแปลงนำอาหารไทยมาใส่แก้วให้ดูแปลกตา คงเป็นเพราะกินง่าย สะดวก ในงานเลี้ยงบางแห่งจึงจัดใส่แก้วเล็กๆ ที่ดูชวนชิมมากกว่า
ปัจจุบันความนิยมนูแวลควีซีนลดน้อยลง มีการหวนกลับไปหาอาหารคลาสสิก ความนิยมแวร์รีน (Verrines) ก็เปลี่ยนไปด้วย จากอาหารใส่แก้วก็กลายเป็นอาหารใส่ถ้วยพลาสติก ขายตามร้านอาหารจานด่วน ร้านสะดวกซื้อ หรือตามงานที่มีคนมากๆ
แต่ว่าไปแล้วในยุคที่ทุกคนต้องไปทำงาน มีเวลาน้อย ถ้าจะจัดงานที่บ้าน แวร์รีนก็ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอยู่ เพราะทำง่าย กินง่าย เตรียมง่าย และไม่ต้องกินมากเกินไป ทั้งยังชวนให้น่าลองน่าทำอยู่เหมือนกัน