Sort by
Sort by

เนสท์เล่ ระดมพลังสังคมสร้าง 3 สุขนิสัยในโครงการ “รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี”

Back to Press releases
กรุงเทพฯ

บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผนึกกำลังกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และกลุ่มรักลูก (บริษัทอาร์แอลจี จำกัด) เปิดตัวโครงการ “รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี” (United for Healthier Kids) จุดประกายพ่อแม่ และผู้มีส่วนร่วมในการดูแลเด็ก เพื่อสร้างเยาวชนรุ่นใหม่วัย 3-12 ปีที่แข็งแรงโดยการปลูกฝัง 3 สุขนิสัยสำคัญ ได้แก่ การกินอาหารให้หลากหลายเพิ่มผักผลไม้ เลือกดื่มน้ำเปล่า และขยันขยับ เคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น พร้อมสร้างสรรค์ “มื้ออาหารของฮีโร่” (Hero Meal) เครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นการปรับเปลี่ยนและปลูกฝังพฤติกรรมที่พึงประสงค์เหล่านี้ เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืน

โดยในปีแรกของโครงการฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและพฤติกรรมเด็กชั้นนำของไทย ที่ร่วมให้ความรู้และประสบการณ์ในการขับเคลื่อนการปลูกฝัง 3 สุขนิสัยที่ถูกต้องแก่เยาวชนได้แก่

  • ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์  ที่ปรึกษาอาวุโส สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ
  • นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล
  • ดร. ชนิศา ตันติเฉลิม ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล ภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • มร.วิลเมนต์ เหลียง นายกสมาคมของสมาคมเชฟโลก
  • เชฟดวงพร ทรงวิศวะ เจ้าของรางวัลเชฟหญิงที่ดีที่สุดในเอเชียปี 2012
  • เชฟอภินันท์ เศวตวรรณกุล เชฟผู้เปี่ยมประสบการณ์

  ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์  ที่ปรึกษาอาวุโส สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ กล่าวว่า “สถานการณ์สุขภาพของเด็กไทยตอนนี้นับว่าน่าเป็นห่วงมาก จากสถิติล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าร้อยละ   7-10 ของเด็กไทยมีน้ำหนักตัวน้อยกว่ามาตรฐาน ขณะที่ร้อยละ 12 มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน หรือเป็น โรคอ้วน  แม้ว่าจะมีการริเริ่มโครงการต่างๆ มากมายออกมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการนมโรงเรียน โครงการอาหารกลางวันนักเรียน แต่ภาวะทุพโภชนาการในเด็กก็ยังคงอยู่ และทวีความรุนแรงขึ้นด้วย  ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศไทยยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ติดอันดับการมีอัตราเพิ่มของคนเป็นโรคอ้วนมากขึ้นอย่างชัดเจน  รากเหง้าของปัญหานี้คือสุขนิสัยต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม เด็กๆ จำนวนมากรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูงแต่มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ รับประทานผักผลไม้น้อย ดื่มน้ำเปล่าน้อยเกินไป และทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายเพียงวันละไม่เกิน 45-60 นาทีเท่านั้น”

“การแก้ไขปัญหาเด็กที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนนี้ เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญ เพราะเป็นปัญหาระดับชาติ  การจัดการกับปัญหานี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย   ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน พ่อแม่ หรือผู้ดูแลเด็กทุกคนต้องช่วยกัน พวกเราทุกคนต้องร่วมผนึกกำลังเพื่อส่งเสริมการปลูกฝัง 3 สุขนิสัยที่ดีให้เด็กตั้งแต่วัยเยาว์ เริ่มจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่เหมาะสม ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น ดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวานให้น้อยลง และทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น” ศ. นพ. ไกรสิทธิ์กล่าว

นางออดรีย์ เลียว ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า  กล่าวว่า “สถานการณ์สุขภาพของเด็กไทยที่เราเผชิญอยู่นี้คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกก็ระดมกำลังเพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหานี้เช่นกัน  เนสท์เล่ ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีมานานกว่า 150 ปี มีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กๆ และถือเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหานี้ในทันที  เราเชื่อว่าการสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดีตั้งแต่วัยเยาว์เพื่อปลูกฝังสุขนิสัยที่ดีอย่างยั่งยืนไปตลอดชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น ในปีแรกของการดำเนินโครงการ “รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี” (United for Healthier Kids) จึงเน้นที่การปลูกฝังสุขนิสัยที่ดีในเด็กอายุ 3-5 ปี”

นางออดรีย์กล่าวเสริมว่า “เนสท์เล่ขอขอบคุณพันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ที่ได้ร่วมกันทำให้โครงการ “รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี” (United for Healthier Kids) เกิดขึ้น  เราเชื่อว่าโครงการนี้จะจุดประกายการขับเคลื่อนสังคมให้ร่วมกันดูแลเยาวชนไทยซึ่งเป็นอนาคตของชาติให้แข็งแรง  สุขภาพของเด็กไทยอยู่ในมือของพวกเรา ขอเชิญชวนทุกท่านมารวมพลังกันเพื่อเด็กสุขภาพดี เพื่ออนาคตที่ดีของสังคมไทย”

นางกนกทิพย์ ปริญญานุสสรณ์  ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า เนสท์เล่ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและพันธมิตรจากหลายภาคส่วนในการศึกษาปัญหาและระบุ 3 สุขนิสัยที่เราต้องปลูกฝังให้เด็กทุกวันเพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ได้แก่

  • เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีความหลากหลาย และเพิ่มปริมาณผักผลไม้
  • เลือกดื่มน้ำเปล่าที่สะอาดให้มากขึ้น
  • เลือกที่จะขยันขยับ ทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้น เพื่อพัฒนาการทั้งทางร่างกายและจิตใจ

นางกนกทิพย์กล่าวเสริมว่า “เนสท์เล่และพันธมิตรได้สร้างสรรค์เครื่องมือ “มื้ออาหารของฮีโร่ (Hero Meal)” ที่สนุกและกระตุ้นให้เด็กๆ อยากใช้ อยากร่วมมือ ประกอบด้วย ถาดฮีโร่ ถ้วยฮีโร่ เมนูฮีโร่ สมุดฮีโร่พร้อมสติ๊กเกอร์ และข้อมูลสร้างฮีโร่ เพื่อช่วยให้พ่อแม่และผู้ดูแลเด็กสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ที่ดี กระตุ้นการปรับเปลี่ยนและปลูกฝังพฤติกรรมที่ถูกต้อง อันจะนำไปสู่การมีสุขภาพดีของเด็กได้ง่ายๆ กล่าวคือ 

ถาดและถ้วยฮีโร่เป็นเครื่องมือที่จะทำให้เด็กๆ ตื่นเต้นและสนุกกับการรับประทานอาหาร ขณะเดียวกันก็ช่วยให้พ่อแม่และผู้ดูแลเด็กสามารถกำหนดอาหารที่หลากหลายในปริมาณที่เหมาะสมแก่เด็กในทุกมื้อ 

เมนูฮีโร่เป็นเมนูที่เชฟชั้นนำของไทยหลายท่านร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้น ให้เป็นเมนูที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ปรุงง่ายจากวัตถุดิบหรือเครื่องปรุงที่หาได้ไม่ยาก ราคาไม่แพง และเด็กๆ ชอบ

สมุดและสติ๊กเกอร์ฮีโร่ เป็นเครื่องมือในการให้รางวัลแก่เด็ก พร้อมทั้งเป็นเครื่องมือสำหรับพ่อแม่และผู้ดูแลเด็กในการติดตามการสร้างพฤติกรรมสุขภาพของเด็ก

ข้อมูลสร้างฮีโร่เป็นข้อมูลอิงหลักวิชาการที่พัฒนาขึ้นร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและพัฒนาการเด็ก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ

ให้ความรู้และเทคนิคแก่พ่อแม่ในการปลูกฝังพฤติกรรมและการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีให้กับเด็กๆ ในรูปแบบที่สนุก และประยุกต์ใช้ได้ง่าย โดยครอบคลุม 3 เรื่องหลักคือ เมนูสร้างสรรค์ การพัฒนาพฤติกรรมเด็ก และโภชนาการ ซึ่งเผยแพร่ทาง Facebook.com/U4HKThailand”

ในปีแรก โครงการ “รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี” (United for Healthier Kids) ได้ระดมความร่วมมือจากหลายภาคส่วน โดยเริ่มต้นที่ 4 โรงเรียนนำร่อง คือโรงเรียนอรรถวิทย์ โรงเรียนโสมาภานุสสรณ์ โรงเรียนวัดหนัง และโรงเรียนวัดปทุมวนาราม โดยมีการนำเครื่องมือต่างๆ ไปทดลองใช้กับนักเรียนอนุบาลอายุระหว่าง 3-5 ปีที่เข้าร่วมโครงการฯ ราว 800 คน เป็นระยะเวลา 3 เดือน  ในระหว่างนั้นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะติดตามผล และประเมินปัจจัยความสำเร็จ ตลอดจนสรุปข้อเสนอแนะ เพื่อนำมาพัฒนาและขยายผลโครงการฯ ในปีต่อไป

ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโครงการ “รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี” (United for Healthier Kids) ได้ที่Facebook.com/U4HKThailand หรือค้นหา United for Healthier Kids TH ผ่าน Facebook ความเปลี่ยนแปลงของสุขภาพเด็กไทยจะเกิดขึ้นได้จริง หากเราร่วมมือกัน