นมและซีเรียลที่เสริมธาตุเหล็กและแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิดอาจลดอาการโลหิตจางจากภาวะขาดธาตุเหล็กในเด็กๆ ได้มากกว่าการรับประทานอาหารเสริมธาตุเหล็กเพียงอย่างเดียว นี่คือผลจากงานวิจัยชิ้นใหม่จาก Nestlé
งานวิจัยจาก สถาบันเพื่อเศรษฐศาสตร์สุขภาพแห่งวินเเทอร์เธอร์ (Winterthur Institute of Health Economics)
ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้ทำการวิเคราะห์ ผลการศึกษาวิจัยจำนวน 18 โครงการที่ได้รับการตีพิมพ์ซึ่งได้ทำการทดลองในเด็กกว่า 5,400 ราย
นักวิจัยพบว่า การรับประทานผลิตภัณฑ์นมและซีเรียลเสริมธาตุเหล็กและสารอาหารอื่นๆ เช่น สังกะสีและวิตามินเอ มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของระดับฮีโมโกลบินในเลือดของเด็กอย่างมีนัยยะสำคัญ
โรคโลหิตจางคือภาวะที่ร่างกายผลิตเม็ดเลือดแดงน้อยเกินไป ดังนั้นร่างกายจึงมีฮีโมโกลบินน้อย
ตามไปด้วย อาการนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการรับประทานธาตุเหล็กไม่เพียงพอ
นักวิจัยพบว่าอาหารที่เสริมธาตุเหล็กเพียงอย่างเดียวสามารถช่วยเพิ่มระดับฮีโมโกลบินได้มากกว่าอาหารชนิดเดียวกันที่ไม่ได้เสริมธาตุเหล็ก
อย่างไรก็ตาม นมและซีเรียลเสริมธาตุอาหารหลายชนิดสามารถเพิ่มระดับฮีโมโกลบินในเลือดได้มากกว่าอาหารชนิดเดียวกันที่เสริมธาตุเหล็กเพียงอย่างเดียว
การศึกษาวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Bio Med Central Public Health และกล่าวกันว่าเป็นการวิจัยครั้งแรกที่นำผลการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารต่างๆ มาวิเคราะห์ โดยการศึกษาวิจัย
ที่นำมาวิเคราะห์จะเน้นศึกษาผลกระทบของนมและซีเรียลที่ผ่านการเติมสารอาหารต่อฮีโมโกลบินในเด็กอายุระหว่างหกเดือนถึงสามขวบ
เกณฑ์การคัดเลือก
นักวิจัยได้คัดเลือกการศึกษาทดลองประมาณ 1,000 โครงการ ในช่วง 45 ปีที่มาผ่านมา ที่อาจมี
ความเกี่ยวข้องกับการศึกษาวิจัย
การทดลอง18 โครงการสุดท้ายที่ได้รับคัดเลือกเป็นการทดลองในแอฟริกา เอเชีย อเมริกาใต้และ
อเมริกากลาง และยุโรป
อายุเฉลี่ยของเด็กที่เข้าร่วมการทดลองอยู่ระหว่างหกเดือนถึงสองขวบ จำนวนเด็กๆ ที่เข้าร่วมการทดลอง
มีตั้งแต่ 33 คน ไปจนถึงกว่า 1000 คน
เด็กๆ ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวยากจนในชนบท หรือชุมชนในแถบชานเมือง
แนวทางปฏิบัติ
นักวิจัยปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติในการศึกษาวิจัย พร้อมทั้งจัดทำรายงานการตรวจสอบและการวิเคราะห์ผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในอดีตที่ศึกษาทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกัน (ระดับเมตา) อย่างเป็นระบบ
นักวิจัยกลุ่มดังกล่าวใช้ห้องสมุด Medline ซึ่งเป็น ฐานข้อมูลทางบรรณานุกรมหลักของห้องสมุด
ทางการแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา และ Cochrane Collection ศูนย์ข้อมูลวิจัยด้านสุขภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติเป็นแหล่งข้อมูลหลักในการวิจัยครั้งนี้
นักวิจัยประเมินความเสี่ยงด้านอคติต่อการวิจัยแต่ละโครงการด้วยการวิเคราะห์คุณภาพของระเบียบวิธีวิจัยและความสมบูรณ์ของผลการวิจัย
การขาดธาตุเหล็ก
เด็กเล็กและสตรีมีครรภ์เสี่ยงต่อการขาดธาตุเหล็กเนื่องจากพวกเขาต้องการแร่ธาตุสูงกว่าคนปกติเพื่อใช้ในการเสริมสร้างการเติบโต
ผลจากการขาดธาตุเหล็กเป็นระยะเวลานานติดต่อกันจะทำให้เด็กมีพัฒนาการทางจิตใจบกพร่อง
ความสามารถของร่างกายลดลง และภูมิคุ้มกันบกพร่อง
การค้นพบของนักวิจัยช่วยอธิบายในทางชีววิทยาว่าเพราะเหตุใดการขาดสารอาหารหลายชนิดทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้มากกว่าการขาดสารอาหารเพียงชนิดเดียว
เนสท์เล่และการเสริมแร่ธาตุในอาหาร
การศึกษาดังกล่าวสนับสนุนโดยเนสท์เล่และ สถาบันโภชนาการเนสท์เล่
เนสท์เล่มีประสบการณ์ในการเสริมแร่ธาตุในอาหารผ่านการกระบวนการเติมแร่ธาตุมากว่า 140 ปี
สินค้าตัวแรกของบริษัทที่เติมแร่ธาตุเข้าไปคือ ‘Farine Lactée’ อาหารเสริมสำหรับเด็กทารกดั้งเดิม
ที่ผลิตโดย Henri Nestlé ผู้ก่อตั้งบริษัท โดยวางจำหน่ายในปี ค.ศ. 1867
ปัจจุบัน เนสท์มีสินค้าเสริมแร่ธาตุต่างๆ เช่น เหล็กและวิตามินเอ วางจำหน่ายทั่วโลก
ธุรกิจนมของบริษัทผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมเสริมธาตุอาหารที่มีราคาย่อมเยาว์ในกว่า 80 ประเทศ โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นเด็กก่อนวัยเรียน
สถาบันโภชนาการเนสท์เล่
สถาบันโภชนาการเนสท์เล่ (NNI) คือองค์กรไม่แสวงผลกำไร ตั้งอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
องค์กรมีเป้าหมายเพื่อพัฒนา "วิทยาศาสตร์เพื่อโภชนาการ" ด้วยการแบ่งปันข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และสื่อการเรียนการสอนกับศาสตราจารย์ นักวิทยาศาสตร์ และชุมชมโภชนาการ
กิจกรรมของ NNI ได้แก่ การจัดกิจกรรม เพื่อปรึกษาหารือเรื่องการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ใหม่ล่าสุด
เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการขาดสารอาหารระดับโลก
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง:
- BMC Public Health Journal
Research article: Effects of micronutrient fortified milk and cereal food for infants and children: a systematic review http://www.biomedcentral.com/1471-2458/12/506/abstract - Nestlé Nutrition Institute: http://www.nestlenutrition-institute.org/Pages/default.aspx
- Winterthur Institute of Health Economics: http://www.wig.zhaw.ch/