Sort by
Sort by

เนสท์เล่ เผยโรงเรียนต้นแบบ โครงการเด็กไทยสุขภาพดี

Back to Press releases
กรุงเทพฯ

 

อ่าน ปรับ ขยับ เปลี่ยน เคล็ดลับสู่การสร้างเสริมโภชนาการและการใช้ชีวิต เพื่อสุขภาพที่ดีของเยาวชนไทย  ตอกย้ำเจตนารมณ์การสร้างเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน

ปัจจุบันปัญหาสุขภาพที่เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคและการใช้ชีวิตของคนไทยยังคงเป็นปัญหาใหญ่ ทั้งเรื่องการรับประทานอาหารที่ไม่สมดุล ทานผักน้อย ทานของหวานมาก และขาดการออกกำลังกาย บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อโภชนาการ สุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดีระดับโลก เล็งเห็นถึงความสำคัญในการปลูกฝังพื้นฐานสุขภาพที่ดีให้กับเด็กไทย เพื่อสร้างผู้ใหญ่ ที่มีสุขภาพดีในอนาคต จึงได้ริเริ่มและดำเนินโครงการ “เด็กไทยสุขภาพดี” ที่ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านโภชนาการและปลูกฝังพฤติกรรมการออกกำลังกายที่เหมาะสมให้แก่เด็กไทยมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 โดยได้ผนึกกำลังร่วมกับ กรมอนามัย คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ในการพัฒนาชุดสื่อการเรียนการสอนด้านโภชนาการและการออกกำลังกายที่สนุกสนานและเข้าใจง่าย ผ่านแนวคิด อ่าน – อ่านฉลากโภชนาการ อ่านเป็นกินเป็น ปรับ – ปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหาร กินให้หลากหลาย ทานผักผลไม้ มากขึ้น ขยับ – ขยับร่างกายให้เกิดการเผาผลาญ กินเท่าไหร่ ใช้ให้หมด เปลี่ยน – เปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร กินหวาน มัน เค็ม แต่พอดี

 

สำหรับปี 2558 ที่ผ่านมา โครงการเด็กไทยสุขภาพดีได้จัดกิจกรรม “วันเด็กไทยสุขภาพดี” ให้แก่โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด 48 โรงเรียน เพื่อเฟ้นหาโรงเรียนดีเด่นระดับประเทศในภารกิจพิชิตสุขภาพดีใน  8 สัปดาห์เป็นโรงเรียนต้นแบบต่อไปในอนาคต ซึ่งมีเด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 5,116 คน โดยโรงเรียนที่ชนะเลิศ 6 โรงเรียนจากทุกภูมิภาค ได้แก่ 1) โรงเรียนบ้านง่อนหนองพะเนาว์ (มิตรภาพที่126) จ.สกลนคร 2) โรงเรียนวัดพิชัยยาราม จ.ชุมพร 3) โรงเรียน เอกชัย จ.สมุทรสาคร 4) โรงเรียนทองสวัสดิ์วิทยาคาร จ.แม่ฮ่องสอน 5) โรงเรียนปรีชานุศาสน์ จ.ชลบุรี และ 6) โรงเรียนเทศบาลประตูลี้ จ.ลำพูน

โรงเรียนดีเด่นในภารกิจพิชิตสุขภาพดี 8 สัปดาห์ ต้องปฏิบัติภารกิจครบ 4 หัวข้อ คือ
ภารกิจที่ 1: “อ่าน” เรียนรู้วิธีอ่านฉลากโภชนาการและฉลากหวานมันเค็ม
ภารกิจที่ 2: “ปรับ” ปรับเปลี่ยนเมนูอาหารให้ได้รับประทานครบ 5 หมู่ทุกวัน โดยเพิ่มผักผลไม้
ภารกิจที่ 3: “ขยับ” ออกกำลังกายร่วมกันและเข้าใจความสำคัญของการกินเท่าไหร่ ใช้ให้หมด
ภารกิจที่ 4: “เปลี่ยน” เรียนรู้ที่จะเลือกรับประทานอาหารที่มีรสชาติหวาน มัน เค็ม แต่พอดี
และต้องนำชุดสื่อการเรียนการสอนของโครงการเด็กไทยสุขภาพดีไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติภารกิจ
และมีการออกกำลังกายประกอบเพลง Healthy Kids Fit & Firm อย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์

6 โรงเรียนชนะเลิศจากโครงการเด็กไทยสุขภาพดี


นางกนกทิพย์ ปริญญานุสสรณ์  ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า “เนสท์เล่มุ่งมั่นในการส่งเสริมโภชนาการเด็กไทย ภายใต้โครงการ “เด็กไทยสุขภาพดี” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การจัดสัมมนาครู เพื่อให้คำแนะนำในการออกแบบกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ และความรู้พื้นฐานด้านโภชนาการเด็ก การจัดวันเด็กไทยสุขภาพดี กิจกรรมพิชิตสุขภาพดีใน 8 สัปดาห์ ตลอดจนการประเมินทัศนคติและพฤติกรรมด้านโภชนาการและการออกกำลังกาย โดยเนสท์เล่มุ่งหวังที่จะขยายเครือข่ายโรงเรียนต้นแบบของโครงการเด็กไทยสุขภาพดีไปยังทุกภูมิภาค  และตั้งเป้าให้เด็กไทยรู้จักอ่าน ปรับ ขยับ เปลี่ยนมากขึ้นที่โรงเรียน และขยายผลต่อไปถึงที่บ้าน โดยให้เด็กๆ เป็นผู้ที่ส่งต่อองค์ความรู้ด้านโภชนาการที่ถูกต้องแก่คุณพ่อคุณแม่ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านโภชนาการอย่างยั่งยืน โดยผลการดำเนินงานใน 11 ปีที่ผ่านมานั้น โครงการฯ ได้มอบสื่อการเรียนการสอนกว่า 24,000 ชุดไปยังกว่า 13,000 โรงเรียนทั่วประเทศ เข้าถึงคุณครู 7,400 คน และเด็กนักเรียนกว่า 1.6 ล้านคน และจากการสุ่มสำรวจและทดสอบเด็กนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ ในปี 2558 พบว่ามีความรู้ด้านโภชนาการเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 24%


อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากรมอนามัย กล่าวเกี่ยวกับโครงการว่า “ผมยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการปลูกฝังพฤติกรรมการบริโภคและออกกำลังกายที่ถูกต้องให้แก่เยาวชนไทย ภายใต้โครงการเด็กไทยสุขภาพดี ซึ่งอาจจะยังมีส่วนที่ต้องปรับปรุงอยู่บ้าง แต่พวกเราก็มิได้ละเลย เรายังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการให้ดีขึ้นทุกๆ ปี ส่วนที่เราทำแล้ว แล้วประสบความสำเร็จ ผมก็ต้องการจะต่อยอดให้เยาวชนไทยทุกคนได้เรียนรู้เช่นเดียวกัน เช่น สื่อการเรียนการสอน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญระหว่างผู้สอนและนักเรียน เพราะมันสามารถดึงดูดความสนใจของเด็กได้ เราจึงค่อย ๆ แทรกซึมเนื้อหาของการรับประทานอาหารแบบสุขภาพดีเข้าไปในสื่อการสอนเพื่อให้เด็กๆ เข้าใจได้ง่ายขึ้น”


ด้าน ดร.สมชัย ชวลิตธาดา ผู้อำนวยการโรงเรียนเอกชัย หนึ่งใน 6 โรงเรียนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ กล่าวว่า “รู้สึกดีใจและภูมิใจที่โรงเรียนได้รับรางวัลชนะเลิศ เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่คุณครูที่ร่วมดำเนินโครงการฯ และยังเป็นการส่งเสริมโภชนาการให้แก่นักเรียนทุกคน เดิมทีทางโรงเรียนมีการดูแลเรื่องสุขภาพและโภชนาการของเด็กอยู่แล้ว แต่หลังจากเข้าร่วมโครงการเด็กไทยสุขภาพดีทำให้การดูแลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยสื่อการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ มาช่วยเสริมการสอนของทางโรงเรียน โดยผนวกภารกิจพิชิตสุขภาพดีเข้ากับวิชาสุขศึกษา ด้านโภชนาการ โรงเรียนจะมีแม่ครัวและนักโภชนาการของโรงเรียนที่คอยดูแลเรื่องโภชนาการอาหารของเด็กในมื้อกลางวัน เนื่องจากจะได้ควบคุมดูแลได้ง่ายขึ้น ส่วนเรื่องการขยับ–ออกกำลังกาย นอกเหนือจากวิชาพลศึกษาแล้ว โรงเรียนเรายังมีวิชาว่ายน้ำเป็นวิชาเสริมที่จะช่วยให้นักเรียนได้ใช้พลังงานทุกส่วนของร่างกาย และยังทำให้มีทักษะการว่ายน้ำติดตัวเด็กนักเรียนไปด้วย สำหรับโครงการฯ นี้ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากนักเรียนชั้นป.4 – 6 ที่เป็นนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ผมจึงอยากจะต่อยอดโครงการฯนี้ไปยังชั้นป.1 – 2 ด้วย น่าจะทำให้ปลูกฝังแก่เด็ก ๆ ได้ง่ายขึ้น”

กิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกายของโรงเรียนเอกชัย


น้องกาแฟ-ด.ญ. สุชาวลี ทองอ่อน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเอกชัย บอกว่า “หนูเป็นคนทานเยอะค่ะ ยิ่งเมื่อก่อนชอบทานขนมหวานมาก แต่หลังจากเข้าร่วมโครงการเด็กไทยสุขภาพดีที่โรงเรียน พี่ๆ เขามาสอนเรื่องการบริโภคอาหารให้สุขภาพดี ก็ทำให้หนูใส่ใจกับของที่จะทานมากขึ้น ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลเยอะ ส่วนกิจกรรมที่ชอบที่สุดคือ เต้นค่ะ จนได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำเต้นของโรงเรียนค่ะ คุณพ่อคุณแม่ก็มีส่วนที่ทำให้บริโภคอาหารที่ดีขึ้นค่ะ หลังจากที่เล่าความรู้ที่ได้ มาจากโครงการฯ ให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง ท่านก็ลดปริมาณน้ำตาลและเกลือเวลาทำกับข้าวลงค่ะ”



น้องฟีนส์-ด.ญ. รชิญาภา เปียงเก๋ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลประตูลี้ จ.ลำพูน เล่าถึงกิจกรรมว่า “โรงเรียนหนูจะมีเต้นเพลง Healthy Kids Fit & Firm ทุกวัน และทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดีจะมีกิจกรรมพิเศษจากภารกิจพิชิตสุขภาพดี คือ คุณครูจะนำสื่อการสอน อย่างเกมบันไดงูมาให้เล่นกันที่โรงยิมและใต้ถุนอาคาร สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากโครงการเด็กไทยสุขภาพดีไปบอกต่อคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างถูกต้อง ได้รู้ปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับต่อวัน อ่านฉลากก่อนซื้อขนมถุง” สำหรับกิจกรรมที่ชอบที่สุดน้องฟีนส์บอกว่า “ชอบเกมบันไดงูมากที่สุดค่ะ ได้เล่นกับเพื่อนหลายๆ คน เกมจะถามความรู้เรื่องอาหารกับเรา ถ้าเราผิด เราก็จะได้รู้ว่าข้อมูลที่ถูกต้องคืออะไร ทำให้เรามีความรู้เรื่องโภชนาการเพิ่มมากขึ้นค่ะ”


ปิดท้ายด้วย น้องฟลุ๊ค-ด.ช.อภิชา ตรงจริยา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5  โรงเรียนปรีชานุศาสน์ จ.ชลบุรี บอกเช่นกันว่า “ผมรู้จักโครงการนี้จากวันเด็กไทยสุขภาพดีที่เนสท์เล่มาจัดที่โรงเรียนผม หลังจากนั้นคุณครูก็มีกิจกรรมมาสอนเรื่อย ๆ เป็นวิธีการทานอาหารให้ถูกวิธี ถูกหลักอนามัย ทำให้ผมต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารครับ เวลาทานอาหารก็จะชิมอาหารก่อนปรุง ต้องออกกำลังกายมากขึ้นด้วยการเต้นตาราง 9 ช่อง เป็นกิจกรรมพิเศษของโรงเรียน โดยใช้เพลง Healthy Kids Fit & Firm ประกอบการเต้นครับ”

สุขภาพที่ดีไม่สามารถสร้างได้ภายในวันเดียว ทุกอย่างล้วนต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่ถ้าเราสามารถปลูกฝังพฤติกรรมการบริโภคที่ดีได้ตั้งแต่ยังเยาว์วัย ก็จะเป็นเหมือนเกราะป้องกันโรคภัยต่าง ๆ ให้แก่เยาวชนไทยได้อย่างยั่งยืน

ติดตามข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์จากโครงการเด็กไทยสุขภาพดีเพิ่มเติมได้ที่ www.dekthaidd.com